ขอนแก่น เสนอ ศบค.ปรับแผนการฉีดวัคซีนครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหาย เน้นหนักคนทั้งครอบครัว คู่ขนานกับ กลุ่ม 608 คาดสิ้นเดือน ส.ค. คนขอนแก่นฉีดวัคซีนแล้วกว่า 300,000 คน ขณะที่ผู้ว่าฯขอโทษ แทนบุคลากรทางการแพทย์หากให้บริการไม่เป็นที่พอใจหรือล่าช้า เพราะทุกคนทำงานหนัก ทั้งป้องกัน-ควบคุมโรค ควบคู่กับให้บริการวัคซีนทุกวันแบบไม่มีวันหยุด
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 ส.ค.2564 ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 รพ.ขอนแก่น จุดฉีดวัคซีนวัดป่าแสงอรุณ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ยังคงมีประชาชนในเขต ต.พระลับ และ ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ยังคงทยอยกันเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ตามที่ได้ลงทะเบียนกับ อสม. และ รพ.สต.ในพื้นที่ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคและกลุ่มสตรีตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยมีนายพงศ์ธร พิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีตำบลพระลับ ,นายวินัย ทองทัพ กำนัน ต.พระลับ นายทวีชาติ ติตะปัญ ประธานสภา ทต.พระลับ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาลฯรวมทั้งผู้นำชุมชน ในเขต ต.พระลับ ร่วมอำนวยความสะดวกและจัดระบบการให้บริการการฉีดวัคซีน ตามขั้นตอนที่ รพ.ขอนแก่น อย่างรัดกุม ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ขณะที่ผู้มีจิตศรัทธา นำน้ำดื่ม,ขนม,ผลไม้ ,เครื่องดื่มประเภทต่างๆ รวมทั้งข้าวกล่อง มาส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ คณะทำงานทุกฝ่าย รวมทั้งทั้งผู้ที่มารับการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันเช่นกัน
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การให้บริการวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับชาวขอนแก่น ขณะนี้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างมาก ทั้งในส่วนของวัคซีนที่รัฐบาลจัดสรร,วัคซีนทางเลือกที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดหามาสมทบและเสริมกับวัคซีนของรัฐ ที่ขณะนี้ได้เร่งกระจายการฉีดวัคซีนให้กับทุกพื้นที่ตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด โดยเฉพาะกลุ่ม 608 คือผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ซึ่งจากจำนวนผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนของ จ.ขอนแก่น ล่าสุดวันนี้อยู่ที่ 215,930 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 14 ของจำนวนประชากรเป้าหมายทั้งจังหวัดที่จะต้องได้รับวัคซีนเข็มแรกทั้งจังหวัดภายในเดือน ก.ย.ที่ร้อยละ 70 หรือประมาณ 1.2 ล้านคน โดยที่ปลายเดือน ส.ค.นี้คาดว่าคนขอนแก่นจะได้รับวัคซีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 และอาจจะมากถึงร้อยละ 33 ซึ่งก็เป็นไปได้
“ จะเห็นได้ว่าการที่รัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนให้กับจังหวัด ประสานกับวัคซีนทางเลือกที่หน่วยงานท้องถิ่นและภาคเอกชนจัดหาเข้ามาเสริม ทำให้ขณะนี้ภูมิคุ้มกันของคนขอนแก่นมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเองและที่สำคัญคือแผนการกระจายฉีดวัคซีนที่เดิมเน้นหนักไปที่ รพ.ทุกแห่งทั้ง รพ.รัฐ,รพ.เอกชน,รพ.มหาวิทยาลัย,รวมทั้ง รพ.ในสังกัดกองทัพบก ในการฉีดวัคซีนเป็นหลักแต่ขณะนี้ได้มีการกระจายวัคซีนลงไปในระดับตำบล โดยมอบหมายให้ รพ.สต.และเทศบาล หรือ อบต.ที่ขณะร่วมดำเนินการให้บริการวัคซีนในระดับชุมชน ตามแผนการจัดสรรวัคซีนที่ทางจังหวัดกำหนด ซึ่งต้องขอขอบคุณชาวขอนแก่น ที่ให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตามมาตรการป้องกันจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเข้มงวดและรัดกุมแล้ว ยังคงเข้ารับการฉีดวัคซีน ตามที่รัฐจัดสรรและวัคซีนทางเลือกของแต่ละหน่วยงาน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคอย่างต่อเนื่องเช่นกัน”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า จากปริมาณวัคซีนที่ได้รับ ประกอบกับการเพิ่มจุดฉีดลงลึกไปในระดับตำบล และ การให้บริการแบบเคลื่อนที่ ที่บุคลากรทางการแพทย์ลงพื้นที่ไปฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้ป่วยติดเตียงและกลุ่มผู้สูงอายุ แบบถึงบ้านเนื่องจากบางคนไม่สะดวกในการเดินทางมารับบริการที่จุดฉีดดังนั้นแผนงานเชิงรุกจึงจำเป็นจะต้องดำเนินการทันทีเคาะประตูบ้านทุกคนเพื่อให้บริการอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตามขณะนี้ศักยภาพของการให้บริการวัคซีนต่อวันมีจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1 ต่อวันหรือที่ประมาณ 10,000 คนทั้งจังหวัด ดังนั้นการให้บริการในจุดฉีดวัคซีอาจจะล่าช้า รอนานหรือไม่ได้รับการบริการที่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากมีผู้ที่มีความประสงค์ขอรับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก ในนามของจังหวัด ในนามของผู้ว่าฯ ต้องขออภัยชาวขอนแก่นและผู้ที่มารับวัคซีนทุกคน แทนบุคลากรทางการแพทย์ หากจะโทษหมอ โทษพยาบาลหรือคณะทำงานที่ให้บริการก็ขอให้โทษและต่อว่าผู้ว่าฯเพียงคนเดียว เพราะทุกคนทำงานอย่างหนัก ทั้งการควบคุมและป้องกันโรคที่กำลังเกิดขึ้น การบริหารจัดการโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม รวมไปถึงศูนย์พักพิง หรือศูนย์พักคอยทุกจุด รวมทั้งการให้บริการวัคซีนตามจุดที่กำหนด ซึ่งยอมรับว่าบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนอ่อนล้าและเหนื่อยล้าแต่ทุกคนทำงานด้วยใจ ตลอด 24 ชม.โดยไม่มีวันหยุด ซึ่งหากจะต่อว่าขอให้มาว่าผู้ว่าฯเพียงคนเดียว เพื่อที่ทุกคนจะก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ไปด้วยกัน