วันศุกร์, 2 พฤษภาคม 2568

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) เริ่มซื้อขาย 2 ก.ย. นี้”

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) เริ่มซื้อขาย 2 ก.ย. นี้

บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์ ผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจร พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 ก.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,992 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “CV”

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CV” ในวันที่ 2 กันยายน 2564 นี้

CV ประกอบธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจร ได้แก่ 1) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 2) ธุรกิจด้านงานวิศวกรรมก่อสร้างที่มุ่งเน้นงานให้บริการงานก่อสร้างโรงไฟฟ้ากลุ่มพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวมวล ขยะ ชีวภาพ  และ พลังงานแสงอาทิตย์ และงานก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐานทั่วไป และ 3) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบัน CV มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 26.2 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โครงการ และโรงไฟฟ้าขยะ 1 โครงการ

CV มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 640 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 960 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 320 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัท และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ระหว่างวันที่ 25 – 27 สิงหาคม 2564 ในราคาหุ้นละ 3.9 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,248 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,992 ล้านบาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย

นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์ เปิดเผยว่า CV มีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการและดำเนินการผลิตของโรงไฟฟ้า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงนับเป็นก้าวสำคัญของบริษัท ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ และส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างเงินทุน ทั้งนี้ CV มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยจะเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าชธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก กำลังการผลิตติดตั้ง 7.36 เมกะวัตต์ พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 39.8 เมกะวัตต์ และพัฒนาโครงการและ/หรือเข้าลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รวมถึงลงทุนในกิจการด้านงานวิศวกรรมที่เกี่ยวเนื่อง นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งจะใช้ในชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน  ชำระคืนเงินกู้ยืมกรรมการ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

CV มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มครอบครัวศักดิ์สิทธิเสรีกุล ถือหุ้น 28.2% กลุ่มครอบครัวบัณฑิตกฤษดา ถือหุ้น 16.7% และกลุ่มครอบครัวเลิศเรืองศุภกุล ถือหุ้น 14.6% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

CV มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฏหมาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน แผนการลงทุน และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปที่ www.cloverpower.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th

“SET…Make it Work for Everyone”

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DNk79R.jpg Phh9Db.jpg sAyptI.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Aqh3Ka.jpg Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ปลุกพลัง Soft Power ปั้นแบรนด์ไทย “Born to Brand” สู่ Hero Brand ระดับโลก
อีซี่มันนี่ ยกระดับธรรมาภิบาลและมาตรฐานองค์กร แต่งตั้ง พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท
“ไวน์ คอนเนคชั่น” ได้รับการยกย่องในความมุ่งมั่นตั้งเป้าหมายใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเลี้ยงแบบไม่ใช้กรง หรือ Cage-Free 100% ครอบคลุมร้านทั่วไทย ภายในปี 2028
เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง ผนึกมูลนิธิเมเจอร์แคร์ ขับเคลื่อน “โครงการปลูกผัก สร้างสุข สร้างรายได้” ที่นครปฐม
แพลตฟอร์มขายฝากอัจฉริยะ Dcash พลิกโฉมการกู้-การลงทุนด้วยระบบ Reverse Auction และ AI
บันยันกรุ๊ป คว้ารางวัลเกียรตินิยมสูงสุดจากงาน ‘International Property Awards 2024/5’