ตำรวจขอนแก่น ประสานสานงานร่วม ตม. และ ทท.เร่งแกะรอยรถวิบาก สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน หลักฐานสำคัญที่ฝรั่งโหดใช้เป็นพาหนะในการขับขี่มาลงมือข่มขืนและพยายามฆ่าหมอดนวดสาวชาวลพบุรี คาดเป็นคนออสเตเรีย หลังพบประวัติหมอนวดสาวพึ่งกลับมาจากออสเตรเรียได้เพียง 7 เดือน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 1 ต.ค.2564 พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชน ภูโอบ รอง ผกก. 1 บก.ทท.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่นและตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น รวมทั้ง ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุที่ร่านดีนะนวดแผนไทย ซึ่งตั้งอยู่ริม ถ.รอบเมือง ด้านหลังวิทยาลัยอาชีวะศึกษาขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อสอบสวนพยานแวดล้อม รวมทั้งการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและการหาหลักฐานเพิ่มเติมจากเหตุชาวต่างชาติกระทำการข่มขืนและทำร้ายร่างกาย น.ส.มนัสนันท์ กลิ่นสุคนธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.1 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ่ง จ.ลพบุรี พนักงานประจำร้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยชุดสืบสวนร่วม 3 ฝ่ายได้ทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติม รวมทั้งการเดินตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ภายในร้าน หน้าร้าน รวมไปถึงเส้นทางโดยรอบของร้านและในจุดที่คาดว่าคน้ายจะหลบหนี โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ในการเข้าให้เบาะแสและเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวคนรา้ยรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎมหายให้ได้
นางเอ (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า ขณะนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านที่เกิดเหตุ คนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติอายุ ประมาณ 45-55 ปีสวมใส่เสื้อยืดสีชมพูกางเกงขายาวได้เดินออกมาจากร้านและมาที่รถจักรยานยนต์แบบวิบาก ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านของตนเอง โดยคนร้ายด้ทำการแต่งตัวด้วยอุปกรณ์เฉพาะของผุ้ที่ชื่นชอบรถวิบาก ก่อนที่ที่จะยิ้มให้กับตนเองและขับรถหลบหนีไปทางวิทยาลัยอาชีวะศึกษาขอนแก่น ทั้งนี้โดยส่วนตัวไม่เคยพบชายชาวต่างชาติรายนี้มากอนและหลังจากที่ชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวขับรถออกไป ไม่นานนักก็มีเพื่อนบ้านตะโกนว่ามีน้ำไหลออกจากร้านจำนวนมากให้มาช่วยดู
“ตนเองจึงได้โทรศัทพ์ไปหาเจ้าของร้านนวด ซึ่งอยู่ที่ กทม.ให้มาตรวจสอบ ซึ่งเจ้าของร้านได้ตรวจสอบภายในร้านผ่านกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจดูได้่านโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะโทรกลับมาว่าให้รีบเข้าไปช่วยพนักงานของร้าน ซึ่งนอนเปือยกาย เลือดท่วมตัว อยู่ข้างตู้เย็น ตนเองจึงตะโกนให้คนมาช่วยและโทรแจ้เจ้าหน้าที่ให้มาช่วยตรจสอบและสามารถช่วยเหลือพนักงานสาวรายนี้ได้สำเร็จ ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมตัวชาวต่างชาติรายนี้ให้ได้เพราะขณะนี้คนในชุมชนนั้นอยู่อย่างหวาดผวาและเกรงว่าชายชาวต่างชาติรายนี้ หรือกลุ่มของคนต่างชาติกลุ่มนี้อาจจะหวนหลับมาทำร้ายร่างกายคนในชุมชน เนื่องจากทุกคนในชุมชนต่างให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการให้ข้อมูลเบาะแสต่างๆของคนร้ายจนครบเพื่อให้ร่งนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎมหายและผลักดันออกนอกประเทศไทยต่อไป”
ด้าน พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนร่วม บก.ตม.4 .บก.ทท. 2 และ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ประสานข้อมูลและทำงานีร่วมกันเป็นทีม โดยขณะนี้ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและพบว่าคนร้ายหลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบวิบากสีแดง ออกจากร้านและขับเข้า ถ.หลังเมือง ผ่านวิทยาลัยอาชีวะศึกษาขอนแก่น ซึ่งชุดสืบสวนได้แกะรอยคนร้ายจ่ากกล้องวงจรปิดและขณะนี้ได้เผยแพร่ภาพรถต้องสงสัยให้กับด่านตรวจคนเข้าเมือง ทุกแห่ง รวมทั้งสถานีตำรวจทุกแห่ง ในการตรวจสอบคนต้องสงสัยตามภาพแล้ว
” ขณะเดียวกันจากการสอบถามจากลูกชายคนเจ็บทราบว่า มารดาเคยเดินทางไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย 7 ปี และกลับมาที่ประเทศไทยเมื่อประมาณ 7 เดือนที่ผ่านมา เมื่อกลับมาก็มาทำงานที่ร้านนวดที่ขอนแก่นในจุดเกิดเหตุ แต่เจ้าตัวทราบว่ามารดามีการติดต่อกับชายชาวต่างชาติหรือไม่ หรือมีการพูดคุยกับชายต่างชาติที่ลงมือก่อเหตุหรือไม่ ดังนั้นข้อมูลที่ได้ขณะนี้จึงเป็นประเด็นที่ต้องประสานงานร่วทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนออสเตรเรียที่อาศัยในพื้นที่ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง”
ขณะที่ พ.ต.ท.เชณ ภูโอบ รอง ผกก 1 บก.ทท.2 กล่าวว่า ชุดสืบสวนตรำวจท่องเที่ยวได้ตรวจสอบตามเกสเฮ้าส์,โรงแรมที่พัก ในเขต จ.ขอนแก่น มาตลอดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา รวมไปถึงในจุดที่คาดว่าเป็นจุดรวมตัวกันอชาวต่างชาติ และจุดที่ชาวต่างชาติชื่นชอบรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ เพื่อแกะรอยคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่จากภาพที่ปรากฎทั้งในส่วนของผู้ต้องสงัย รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งข้อมูลเบาะแสมาทีสายด่วนตำรวจท่องเที่ยวที่หมายเลข 1155 หรือสายด่วนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 1178 หรือสายด่วน 191 ได้ตลอดทั้ง 24 ชม.
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >