วันพฤหัสบดี, 10 เมษายน 2568

นายกรัฐมนตรีพร้อมผลักดันจังหวัดอุดรธานี ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Hub of GMS) ภายใต้ 5 เส้นทางโลจิสติกส์ สร้างประโยชน์ สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีพร้อมผลักดันจังหวัดอุดรธานี ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Hub of GMS) ภายใต้ 5 เส้นทางโลจิสติกส์ สร้างประโยชน์ สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น “พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” สร้างประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ ฮอลล์ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี เพื่อหารือแลกเปลี่ยนทิศทางการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ (1) ระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ – หนองคาย และการเตรียมความพร้อมรองรับโครงข่ายการขนส่งระหว่างจีน – ลาว – ไทย (2) ทิศทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวแบบ New Normal โดยในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีได้รับการกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (พื้นที่สีฟ้า) ภายใต้โครงการ “อุดร พลัส โมเดล” (3) การเตรียมความพร้อมของจังหวัดอุดรธานีในการเป็นเจ้าภาพการจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2026 (พ.ศ. 2569) ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี และ (4) รายงานมุมมองนักธุรกิจรุ่นใหม่ในการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี โดยเฉพาะความร่วมมือในการผลักดันและรวมตัวกันสร้างเครือข่ายธุรกิจ รวมถึงการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคมในช่วงหลังสถานการณ์โควิด – 19 ด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือและรับฟังบรรยายสรุปว่า
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดอุดรธานี ในการเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Hub of GMS) ได้อนุมัติงบประมาณ ปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุน ในทุกมิติ ดังนี้
1. รถไฟฟ้าความเร็วสูง กำลังเร่งก่อสร้าง จากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-ขอนแก่น ผ่านอุดรธานีสิ้นสุดที่หนองคายและเชื่อมต่อกับระบบรถไฟลาว-จีน
2. ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ซึ่งเป็นสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน ที่มีผู้ใช้บริการสูงสุดก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19  ก็กำลังจะขยายให้รองรับผู้โดยสารให้ได้มากขึ้นเป็นจำนวน  7 ล้านคนต่อปี
3. ถนนมิตรภาพ อุดรธานี-หนองคาย กำลังขยายเป็น 6 เลนตลอดสาย ลงมือก่อสร้างแล้วในปีนี้ (2564) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 ช่วยรองรับนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว และจีนได้อีกมาก
4. ถนนสายใหม่ตัดตรง อุดรธานี-บึงกาฬ ปลายทางเชื่อมต่อสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ ขณะนี้ สำรวจเส้นทางที่จะสร้างถนนเสร็จแล้ว ถนนสายนี้มีมูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมตั้งงบประมาณก่อสร้างโดยเร็วต่อไป เพื่อให้เชื่อมกับสะพานข้ามแม่น้ำโขง จ.บึงกาฬที่กำลังลงมือก่อสร้างอยู่ โดยชาวอุดรธานีและทุกจังหวัดในภูมิภาคนี้ จะได้รับประโยชน์มาก
 
การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมนักลงทุนอุดรธานี ที่ได้ลงทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกของภาคอีสาน ที่ จ.อุดรธานี  รัฐบาลจะสนับสนุนภาคเอกชนให้เดินไปด้วยกัน  โดยจะเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟและเส้นทางถนนมิตรภาพ เข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมจากนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีออกสู่ภายนอก ก็ยิ่งจะสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ ต้องสร้างและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก รวมทั้งจะต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
ภาคการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียังกล่าวแสดงความยินดีกับคนอุดรธานีที่ได้รับการปรับระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักและได้รับเลือกให้เป็นเมือง MICE City ตั้งแต่ปี 2563 ทั้งนี้ รัฐบาลยังอนุมัติให้จังหวัดอุดรธานี เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกในปี 2569 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวให้กำลังใจ พร้อมให้จังหวัดเตรียมข้อมูลการนำเสนอการเป็นเจ้าภาพฯ ให้ครบถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและพื้นที่ให้มากที่สุด
 
โอกาสนี้  ผู้แทนภาคเอกชนและภาคประชาสังคมจังหวัดอุดรธานีกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่สามารถดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ส่งผลประโยชน์ก่อให้เกิดการสร้างโอกาสให้กับจังหวัดอุดรธานีในการเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและระบบโลจิสติกส์ ของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อสร้างงาน สร้างคน สร้างรายได้ให้กับประชาชน รวมถึงขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ผู้แทนนักธุรกิจรุ่นใหม่ ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้โอกาสนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดอุดรธานี นําเสนอมุมมองนักธุรกิจรุ่นใหม่ในการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี ผลักดันการปลูกพืชเกษตรมูลค่าสูง แทนการปลูกพืชเกษตรหมุนเวียน เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมแนวคิดภาคเอกชนและภาคประชาสังคมและผู้แทนนักธุรกิจรุ่นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของรัฐบาลในการผลักดันภาคเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำการเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น พร้อมกับฝากให้กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่สร้างความเข้าใจที่ตรงกัน เน้นความรักความสามัคคี ยืนยันตนเองไม่ได้ขัดแย้ง ไม่ได้รังแกใคร และไม่ได้ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ขอให้คนรุ่นใหม่และทุกคนยึดหลักชัยของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะเป็นแผ่นดินไทยที่เติบโตและตายที่ประเทศไทย ขอให้หยุดความขัดแย้ง อย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤต ช่วยกัน “พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” เพราะทุกคนคือคนไทยต้องช่วยกันสร้างประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DNk79R.jpg 6TyuFJ.jpg sAyptI.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Aqh3Ka.jpg Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
นิโอ ทาร์เก็ต และอินฟลูเอ็นเชี่ยลแบรนด์ สิงค์โปร์ จัดงานมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ปี 2024
พูดถึงกล้วยหอมทอง ทำไมต้องที่ “โก โฮลเซลล์” ผลผลิตสดใหม่จากเสิงสาง ใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติดี มีมาตรฐาน GAP
ญาญ่า อุรัสยา เคียงข้างพรอมิสมาอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวแคมเปญใหม่ สมัครกู้เงินได้สะดวกและง่ายขึ้นผ่านแอป
ทราเวลโลก้าเผย กรุงเทพฯ ยังครองแชมป์ ชุมพรติดโผจุดหมายฮิตสงกรานต์ 2568
คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ จับมือ PMCU ร่วมจัดหลักสูตรพัฒนาผู้จัดการสินทรัพย์และ นักพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ พลิกโฉมพื้นที่สถานีรถไฟ
สสว. เสริมแกร่ง SME ผนึกกำลัง 30 หน่วยงาน จัดงาน “ปลดล็อกความสำเร็จ SME สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” มุ่งยกระดับศักยภาพแบบพลวัต