โฆษกรัฐบาลเผย ยอดค่าใช้จ่ายจากโครงการลดค่าครองชีพของรัฐ “พุ่งแล้วกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท” เตือนผู้มีสิทธิคนละครึ่งเดิม รีบสแกน “เป๋าตัง” ใช้จ่ายก่อนเวลา 22.59 น. ภายในวันนี้ (28 ก.พ. 65) เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายในการขับเคลื่อนทุกกลไกเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยุคที่ต้องเผชิญกับผลกระทบของสถานการณ์โควิด -19 โดยรัฐบาลได้มีมาตรการลดภาระค่าครองชีพของรัฐเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน เป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งความคืบหน้ายอดค่าใช้จ่ายในรอบปีใหม่นี้ 2565 ประกอบด้วยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินสนับสนุนในการช่วยลดภาระการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของประชาชน กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ล่าสุด ข้อมูล ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ใช้สิทธิ สะสมรวม 40.12 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 47,708.21 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 25.91 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 44,872.9 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 22,781.2 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 22,091.7 ล้านบาท 2) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.06 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,606.01 ล้านบาท และ 3) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.15 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 229.30 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับการเปิดลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 4 รอบนี้ ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก กดลงทะเบียนอย่างรวดเร็วทำให้เต็มสิทธิ 29 ล้านสิทธิเพียงไม่มีวันที่เปิดให้ลงทะเบียนได้ โดยประชาชนสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนกลุ่มเดิมฯ (คนละครึ่งเฟส 3) รีบสแกน “เป๋าตัง” และใช้จ่ายภายในวันนี้ (28 ก.พ. 65) เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนกลุ่มเดิมฯ ที่ยังไม่ได้เริ่มใช้สิทธิประมาณ 2.9 ล้านราย
“รัฐบาลได้ออกแบบโครงการคนละครึ่งเฟส 4 เพื่อให้ประชาชนได้มีทุนจากภาครัฐในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นต่อการยังชีพในแต่ละวัน ร้านค้าและประชาชนต่างได้ประโยชน์จากโครงการนี้ สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยได้จริง เศรษฐกิจในระบบกลับมาหมุนเวียนได้ตามกลไก จึงขอเชิญชวนผู้ที่ยังไม่ได้สแกนใช้สิทธิผ่าน “เป๋าตัง” รีบใช้จ่ายภายในวันนี้ (28 ก.พ.) ก่อนเวลา 22.59 น. ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิทันที ซึ่งจะถือว่าเสียโอกาสไปในครั้งนี้” นายธนกร กล่าว
เผยยอดค่าใช้จ่ายจากโครงการลดค่าครองชีพของรัฐ “พุ่งแล้วกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท” เตือนผู้มีสิทธิคนละครึ่งเดิม รีบสแกน “เป๋าตัง” ใช้จ่ายก่อนเวลา 22.59 น.-28 ก.พ.65
เรื่องที่เกี่ยวข้อง