นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า การเพิ่มโควตาสลากดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เป็นอำนาจของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลจะพิจารณาว่าจำเป็นจะต้องเพิ่มหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าสลากดิจิทัล เป็นการแก้ปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาได้ดี และวิธีการก็เป็นไปตามโลกในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสำนักงานสลากฯ สามารถปรับตัวได้ดี
ทั้งนี้ การขายสลากดิจิทัลล็อตแรกกว่า 5 ล้านฉบับ ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณและทิศทางที่ดีที่จะเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาการขายสลากฯ เกินราคา ควบคู่ไปกับวิธีการอื่น ๆ
“การเพิ่มโควตาสลากดิจิทัลบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นอำนาจของคณะกรรมการสลากฯ ที่จะดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ซึ่งอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการสลากฯ ได้เต็มที่” นายอาคม กล่าว
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา กล่าวถึงการจำหน่ายสลากผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในช่วง 4 วัน ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนให้การตอบรับอย่างดี ระบบมีความราบรื่น เนื่องจากมีความเคยชินกับระบบ รวมทั้งประชาชนสามารถซื้อสลากตัวเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้จริง
โดยข้อมูลล่าสุด เวลา 13.04 น. สลากทั้งหมด 5,173,500 ฉบับ ถูกจำหน่ายหมดแล้ว ผ่านการซื้อของประชาชนจำนวน 1,247,406 คน
ส่วนแนวโน้มในการเพิ่มปริมาณสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มนั้น ขอเวลาในการประเมินผลการจำหน่ายและผลตอบรับประมาณ 2 เดือน เพื่อดูว่าในระยะยาวเป็นอย่างไร เพราะการตอบรับในช่วงแรกอาจได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ และประชาชนสามารถเลือกซื้อเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้
ทั้งนี้ หากจะต้องมีการเพิ่มปริมาณสลากในอนาคตเพื่อให้มีปริมาณสลากเพียงพอที่จะช่วยชี้นำตลาด และให้ราคาโดยรวมลดลงมาเหลือ 80 บาทให้ได้นั้น จะต้องเกิดจากความพร้อมของตัวแทนจำหน่ายที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการด้วยความเต็มใจ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อผู้ค้าสลากใบด้วย จึงต้องประเมินให้รอบคอบก่อน โดยคำนึงถึงความสมดุลในการปล่อยขายสลากเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมแก่ผู้ค้าสลากใบ ยืนยันวัตถุประสงค์ของการขายสลากดิจิทัลราคา 80 บาท เพราะต้องการแก้ปัญหาสลากเกินราคา และเป็นทางเลือกให้กับประชาชนเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเปิดขายเพื่อแข่งกับผู้ค้าสลากใบ นายอนุชา กล่าวว่า มาตรการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการอยู่นั้น ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความเข้มข้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการจุดจำหน่ายสลาก 80 ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ กว่า 500 จุด และจะเรียกรายสำรองขึ้นมา เพื่อให้มีจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 ให้ครบ 1,000 จุด ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้า กำลังเร่งดำเนินการคัดเลือกต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ค.นี้
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า แม้ว่าสลากดิจิทัลจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่สำนักงานสลากฯ จะยังไม่เพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลในงวดวันที่ 16 มิ.ย.65 โดยในงวดวันที่ 1 ก.ค. 65 ที่จะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 65 ยังคงจำนวนขายไว้ที่ 5 ล้านฉบับเหมือนเดิม ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการสลากในวันที่ 23 มิ.ย.จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องมีการเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลเป็นจำนวนเท่าใด หากมีการเพิ่ม ก็จะเริ่มในงวดวันที่ 16 ก.ค. ซึ่งเริ่มขายวันที่ 2 ก.ค. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การเพิ่มสลากดิจิทัล จะต้องพิจารณา 2 ส่วน กล่าวคือ สำนักงานสลากฯ อยากให้สลากทุกใบจำหน่ายในราคา 80 บาท แต่ก็ยังมีรายย่อยที่เป็นตัวแทน 1 แสนกว่าคน เป็นอาชีพขายสลากไปเลี้ยงตัว ที่ต้องจำเป็นต้องดูแลด้วย ถ้าสลากดิจิทัลเกิดขึ้นเร็วก็กระทบแบบเดิม แต่ถ้าเกิดช้า สลากก็จะขายเกินราคา 80 บาทมาก ซึ่งต้องบริหารจัดการให้เกิดความสมดุล โดยงวดหน้าต้องประเมิน ความเข้าใจคนซื้อคนขายมีมากพอแล้วหรือไม่ และจำนวนสลากต้องมีพอดีกับความต้องการซื้อ เพราะต้องการให้คนขายแพลตฟอร์ขายได้หมดทุกใบ
พร้อมยืนยันว่า แอปพลิเคชันเป๋าตังที่สามารถนำมาขายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ ถือว่าเป็น ซุปเปอร์แอปฯ เป็นแพลตฟอร์มเดียวของประเทศที่เปิดให้ผู้ขาย นำสลากรายย่อยมาฝากขายในแอปฯ ได้ และยืนยันว่าสำนักงานไม่ได้ขายสลากแข่งกับรายย่อย สลากทุกใบที่ขายในแอปฯเป๋าตัง ยังเป็นของรายย่อยเหมือนเดิมที่มาฝากขาย ข้างล่างสลากทุกใบที่ซื้อจะมีการระบุชื่อรายย่อยที่ขายสลาก ไม่มีแม้แต่ใบเดียวที่เป็นของสำนักงานสลากฯ เมื่อขายได้ในแต่ละวัน เงินจากการขายสลากจะถูกโอนเข้าบัญชีให้รายย่อยทั้งหมด
“สลากดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ไม่เหมือนแพลตฟอร์มไหนที่มีอยู่ในประเทศ ในอนาคตถ้าผู้ค้ารายย่อย เห็นประโยชน์ สามารถขายได้จริง ก็เอาสลากมาฝากได้ ซึ่งการขายทั้งหมดไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น ขายได้ราคา 80 บาทก็ได้เงินเต็มไม่มีการหักให้กองสลาก กองสลากเพียงสร้างแพลตฟอร์มให้เอาสลากมาฝากเท่านั้น” นายลวรณ กล่าว
จากนี้ สลากจะขอดูระบบการตรวจผลรางวัล และการแจ้งเตือนระบบการถูกรางวัล ในวันที่ 16 มิ.ย.อีกครั้ง รวมทั้ง ระบบการเลือกรับเงินรางวัลว่าจะราบรื่นหรือไม่ และระบบการจ่ายเงินรางวัลที่ผู้ถูกรางวัลจะต้องการเลือกมารับเงินที่สำนักงาน ให้แจ้งวันรับรางวัลล่วงหน้า หรือต้องการโอนเข้าบัญชีธนาคารเลย ไม่เกิน 12 ชั่วโมง เงินรางวัลจะต้องโอนเข้าบัญชีทันที
นายลวรณ กล่าวว่า ในอนาคตแอปเป๋าตัง จะเพิ่มฟีเจอร์เพื่ออำนวนความสะดวกคนขาย ในกรณีเลขบางเลขที่ขายได้ยาก จะมีให้คนขายสามารถลดราคาสลากใบนั้นได้ เช่น ลดเหลือ 75 บาทก็ได้ แต่เกิน 80 บาทไม่ได้ ทำให้การเพิ่มสลากทำได้ง่ายขึ้น ไม่มีสลากค้างบนแพลตฟอร์ม และมีฟังก์ชั่นรองรับคนพิการ เช่น ผู้พิการทางสายตา สั่งการทำงานด้วยเสียงได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการซื้อสลากดิจิทัล กรณีถ้าถูกรางวัลที่ 1 ต้องมารับเองที่สำนักงานเท่านั้น โดยจะหักเฉพาะอากรแสตมป์ 0.5% หรือคิดเป็น 30,000 ต่อใบ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 1% หรือมีค่าใช้จ่ายตามที่เป็นกระแสข่าวว่าจะถูกหักถึง 90,000 บาท
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ในเดือน ก.ค. สำนักงานสลากฯ จะเริ่มเดินสายโรดโชว์ ทำประชาพิจารณ์การออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ คาดว่าแล้วเสร็จไม่เกิน 70 วัน โดยเดือน ส.ค.จะได้ข้อยุติ และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการสลากเห็นชอบแล้วว่าจะต้องดำเนินการรูปแบบใด
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >