วันพุธ, 27 พฤศจิกายน 2567

เตือนประชาชน ให้เพิ่มความระมัดระวังอุปกรณ์ไฟฟ้า-ถังแก๊สหุงต้มภายในที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ 

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เตือนประชาชน ให้เพิ่มความระมัดระวังอุปกรณ์ไฟฟ้า-ถังแก๊สหุงต้มภายในที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2566 นี้

วันที่ 30 ธันวาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในโอกาสวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่จะปิดบ้านเรือน/ที่พักอาศัย ออกเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัว หรือเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ต่างจังหวัด พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากข้อห่วงใยและย้ำเตือนมายังประชาชน ขอให้ช่วยกันเพิ่มความระมัดระวัง ตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้าและถังแก๊สหุงต้มภายในบ้านเรือน/ที่พักอาศัย ก่อนจะออกเดินทาง ไม่ลืมปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน รวมทั้งปิดวาล์วถังแก๊สหุงต้มให้สนิท เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ 

นายอนุชาฯ กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่อยู่บ้าน ไม่ได้ออกเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำจากคู่มือประชาชนในการเตรียมตัวให้รอดปลอดภัยพิบัติ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ที่มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ดังนี้ 
1) สังเกตสภาพอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน สายไฟฟ้าไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็นไหม้ ฉนวนหุ้มสายไฟฟ้าไม่ชำรุด ไม่มีรอยฉีกขาด ไม่มีรอยแตกร้าว ไม่มีรอยไหม้ ไม่มีรอยกัดแทะของสัตว์ และไม่มีรอยสิ่งของหนักกดทับ
2) เลือกใช้ขนาดของสายไฟฟ้าให้เหมาะสมกับปริมาณกระแสไฟฟ้าและการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า หากใช้กระแสไฟฟ้าเกินขนาดหรือจุดต่อบริเวณปลั๊กไฟไม่แน่น จะทำให้อุณหภูมิสายไฟอยู่ในระดับสูงกว่าปกติ ให้จัดการแก้ไขเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
3) หมั่นตรวจสอบสายไฟฟ้านอกอาคารหรือผนังใต้ฝ้าเพดานเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจุดต่อและข้อต่อสายไฟฟ้า หากมีมดและแมลงอาศัย มีรอยน้ำรั่วซึม ให้แจ้งช่างผู้ชำนาญการมาซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ในทันที
4) จัดการแก้ไขสายไฟฟ้าที่อยู่ในจุดเสี่ยงอันตราย เช่น ใกล้แหล่งความร้อน สารเคมี สารไวไฟ แสงแดดส่องถึง ฝนสาดหรือวางของหนักกดทับสายไฟ เพราะจะทำให้ฉนวนไฟฟ้าชำรุดได้ง่าย จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
5) ไม่ปล่อยให้สายไฟฟ้าพาดโครงสร้างส่วนที่เป็นโลหะหรือเหล็กโดยตรง ให้นำสายไฟร้อยใส่ท่อพีวีซี เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วลงบนโครงโลหะ และหากสายไฟฟ้าชำรุด จะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ 
ทั้งนี้ หากไม่มีความรู้ ความชำนาญเกี่ยวกับไฟฟ้า ห้ามดำเนินการตรวจสอบ แก้ไข หรือซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยตนเองอย่างเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต

นายอนุชาฯ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ในส่วนของก๊าซหุงต้ม เป็นเชื้อเพลิงที่นิยมใช้ในครัวเรือน ซึ่งมีคุณสมบัติไวไฟ หากเลือกใช้และจัดวางถังก๊าซอย่างไม่ถูกวิธี จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการระเบิด และเพลิงไหม้ โดย เฟซบุ๊ก ปภ. แนะเลือกใช้ วางถังก๊าซถูกวิธี…ลดเสี่ยงเพลิงไหม้ ดังนี้ 
1) เลือกใช้ถังก๊าซที่มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และอยู่ในสภาพสมบูรณ์ รวมถึงวาล์วปรับแรงดันปิดได้สนิท ท่อนำก๊าซไม่บวม ไม่มีรอยปริ และไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลขุ่น
2) ไม่วางเตาแก๊สในบริเวณที่มีลมพัดแรง เพราะเปลวไฟที่หัวเตาจะดับในขณะที่ยังมีก๊าซออกมา หากเกิดประกายไฟส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ได้ 
3) ไม่วางถังก๊าซบริเวณพื้นที่ชื้นแฉะ มีไอน้ำ สารกัดกร่อน เพราะทำให้ถังก๊าซเป็นสนิมและผุกร่อน 
4) ไม่จัดวางถังก๊าซใกล้แหล่งความร้อนบริเวณที่มีประกายไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟ เพราะเสี่ยงต่อการระเบิดและเพลิงไหม้ 
5) จัดวางในพื้นที่อากาศถ่ายเทสะดวกและเคลื่อนย้ายง่าย ไม่กีดขวางประตูหรือทางเข้าออก หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้แก้ไขสถานการณ์ทันท่วงที 
6) ไม่วางถังก๊าซบริเวณที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ห้องที่ปิดทึบ ชั้นใต้ดิน เพราะหากก๊าซรั่วไหล จะไม่สามารถระบายก๊าซออกสู่ภายนอกได้
7) วางถังก๊าซในลักษณะแนวตั้งบนพื้นราบที่แข็งแรง และห่างจากเตาแก๊สประมาณ 1.5-2 เมตร เพื่อป้องกันประกายไฟจากเตาแก๊สพุ่งไปโดนถังก๊าซ สายนำก๊าซ ก่อให้เกิดอันตรายได้ 

“ ปภ. ยังได้มีข้อแนะนำใช้ก๊าซหุงต้มถูกวิธีอีกว่า ในการใช้ก๊าซหุงต้ม ห้ามกลิ้งหรือกระแทกถังก๊าซ เพราะแรงกระแทกอาจทำให้ถังก๊าซระเบิด ก่อนใช้งานให้เปิดวาล์วที่ถังก๊าซ โดยหมุนไม่เกิน 2 รอบ แล้วจึงเปิดวาล์วที่เตาแก๊ส เพื่อป้องกันก๊าซกระจายตัวในอากาศ หากมีประกายไฟจะทำให้เกิดการระเบิดได้ กรณีเปิดเตาแก๊สแล้วไฟไม่ติด ห้ามเปิดซ้ำ ให้ทิ้งระยะสักครู่ค่อยเปิดซ้ำ เพราะอาจมีก๊าซสะสมเป็นจำนวนมาก ทำให้เปลวไฟพุ่งถูกร่างกาย และเกิดเพลิงไหม้ หลังจากใช้งานเสร็จแล้วให้ปิดวาล์วถังก๊าซก่อนและรอจนไฟที่เตาแก๊สดับสนิทแล้วจึงปิดวาล์วที่หัวเตา ส่วนการตรวจสอบรอยรั่วบริเวณถังก๊าซ ให้ใช้น้ำสบู่ลูบตามจุดต่าง ๆ ของถังก๊าซ หากมีฟองสบู่ผุดขึ้นมา แสดงว่าก๊าซรั่วไหล ให้ปิดวาล์วที่ถังก๊าซทันที และจัดการเปลี่ยนถังก๊าซใหม่ทันที นอกจากนี้ กรณีก๊าซรั่วไหล ให้รีบปิดวาล์วถังก๊าซทันที แล้วเปิดประตูหน้าต่างทุกบาน เพื่อระบายก๊าซออกสู่ภายนอก จากนั้นให้ตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้ก๊าซรั่วไหล หากพบว่าเกิดจากถังก๊าซรั่ว ให้พลิกถังก๊าซส่วนที่รั่วไหลไว้ด้านบน หรือนำผ้าชุบน้ำมาปิดบริเวณที่ก๊าซรั่ว จะช่วยลดการรั่วไหลของก๊าซ ห้ามเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดหรือกระทำการใด ๆ ที่ทำให้เกิดประกายไฟบริเวณที่ก๊าซรั่วไหล เช่น สูบบุหรี่ จุดไฟแช็ก เป็นต้น เพราะอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้” นายอนุชาฯ กล่าว 

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณา ติดต่อนิตยา สุวรรณสิทธิ์-0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
“เกณิกา”เผย รัฐบาล-กระทรวงเกษตร ชวนคนไทยร่วมงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 4-6 มิ.ย.นี้
เผยข้อมูล GTA ไทยยืน 1 ส่งออกทุเรียนสดไปจีน โดยปี 2567 จีนนำเข้าจากไทย กว่า 1 แสนตัน เป็นมูลค่า 717 ล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
รบ.เชิญชวน ทุกหน่วยงาน รัฐ เอกชน ภาคสังคม ร่วมประดับธงชาติ พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
ย้ำ วันแรงงานแห่งชาติ 1 พ.ค. นี้ นายจ้างต้องให้ลูกจ้างหยุดงานและจ่ายค่าจ้างปกติ
รัฐบาลกระตุ้นส่งเสริมการลงทุนจัดงานมหกรรมดนตรี และเทศกาลนานาชาติ จุดประกายให้ไทยเป็นเป้าหมายการจัดงานระดับโลก
ครม. อนุมัติจ้างเหมานักการภารโรง แทนการยกเลิกครูเวร