วันศุกร์, 2 พฤษภาคม 2568

สภาอุตสาหกรรมขอนแก่น ระบุผู้ประกอบการขอนแก่นพร้อมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 340 บาท เริ่ม 1 ต.ค.นี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานในภาวะค่าครองชีพแพง

สภาอุตสาหกรรมขอนแก่น ระบุผู้ประกอบการขอนแก่นพร้อมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 340 บาท เริ่ม 1 ต.ค.นี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานในภาวะค่าครองชีพแพง วอนรัฐทบทวนมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง โดยเฉพาะค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า และสิทธิด้านภาษี เพื่อลดต้นทุนหลังต้องปรับขึ้นค่าแรงพร้อมกันทั้งประเทศ


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 ก.ย.2565 ที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น นายทวีสันต์ วิชัยวงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรม จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งขอนแก่น ปรับขึ้นจากเดิมวันละ 325 บาท เป็น 340 บาท คิดเป็นการปรับขึ้นในอัตราร้อยละ 4.6 ซึ่งยังคงจัดอยู่ในเกณฑ์การประเมินที่ต่ำกว่าที่รัฐบาลกำหนดคือการปรับขึ้นที่ร้อยละ 5-8 และในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำดังกล่าวนี้นั้นกลุ่มผู้ใช้แรงงานโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ ละแรงงานรับจ้างรายวัน จะได้รับเงินค่าจ้างเพิ่มขึ้นอีกวันละ15 บาทหรือได้รับเงินเดือนที่ปรับขึ้นอีกเดือนละ 450 บาท ซึ่งในฐานะนายจ้างแม้จะต้อรับภาวะค่าต้นทุนด้านแรงงานที่เพิ่มขึ้นแต่ถ้ามองถึงสัดส่วนเงินเฟ้อและภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นถือว่าเหมาะสมและสามารถทีจะช่วยเหลือใช้แรงงานได้อย่างมาก
“ ขอนแก่น มีโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งหมดกว่า 4,000 แห่ง มีผู้ใช้แรงงานรวมกว่า 100,000 คน ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ในจำนวนนี้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งสิ้นรวมกว่า 900 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนในประเทศและกลุ่มทุนท้องถิ่น รวมไปถึงโรงงานจากต่างประเทศที่มาตั้งฐานการผลิตในพื้นที่แต่สัดส่วนทุนท้องที่ยังคงมีมากกวากลุ่มทุนรายใหญ่จากต่างชาติ ดังนั้นถามว่ากระทบมั้ยในการปรับค่าแรงที่เพิ่มขึ้น เราก็ต้องมองใน 2 มุม คือลูกจ้างที่ต้องรับภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น น้ำมันแพง,ไข่แพง,หมูแพง,สินค้าในการอุปโภคและบริโภคต่างๆแพงขึ้น การได้รับค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยบรรเทาได้บ้าง ขณะที่นายจ้างเองก็ต้องเห็นใจที่ต้องมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่กลไกในการขับเคลื่อนภาพรวมทางเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐที่กำหนดออกมา ทุกฝ่ายก็ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน”


ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้แรงงานทักษะและแรงงานฝีมือ ต่างได้รับค่าแรงมากว่าค่าแรงขั้นต่ำที่กำหนด ขณะที่กลุ่มงานรับเหมาก่อสร้างก็มีการคิดค่าใช้จ่ายเป็นตารางเมตร ด้านแรงงานในระบบก็ได้รับเงินเดือนที่มากว่าค่าแรงขึ้นต่ำ ส่วนกลุ่มราชการหรือลูกจ้างของรัฐก็มีค่าจ้างที่มากอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ประกอบการหรือนายจ้างก็ต้องหาวิธีในการลดต้นทุนการผลิตหรือประหยัดค่าใช้จ่าย หรือการนำแรงงานต่างชาติตามข้อตกลงเข้ามาทำงานทดแทนแรงงานไทย ในกลุ่มผู้ประกอบการบางประเภท โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าส่งออก,แหอวน,รองเท้า,เครื่องหนัง หรือสินค้าแปรรูป รวมไปถึงการพูดคุยกันในการนำนวัตกรรมหรือระบบเทคโนโลยีต่างๆหรือเอไอ เข้ามาทดแทนในการผลิตหรือทดแทนในส่วนที่สำคัญ อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องมองถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการในระดับพื้นที่ด้วยการพิจารณาทบทวนเรื่องต้นทุนที่แพงขึ้นและมีการผันผวนตลอดเวลา โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า,ค่าน้ำมัน หรือสิทธิทางด้านภาษีเพื่อช่วยผู้ประกอบการด้วย

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ปลุกพลัง Soft Power ปั้นแบรนด์ไทย “Born to Brand” สู่ Hero Brand ระดับโลก
อีซี่มันนี่ ยกระดับธรรมาภิบาลและมาตรฐานองค์กร แต่งตั้ง พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท
“ไวน์ คอนเนคชั่น” ได้รับการยกย่องในความมุ่งมั่นตั้งเป้าหมายใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเลี้ยงแบบไม่ใช้กรง หรือ Cage-Free 100% ครอบคลุมร้านทั่วไทย ภายในปี 2028
เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง ผนึกมูลนิธิเมเจอร์แคร์ ขับเคลื่อน “โครงการปลูกผัก สร้างสุข สร้างรายได้” ที่นครปฐม
แพลตฟอร์มขายฝากอัจฉริยะ Dcash พลิกโฉมการกู้-การลงทุนด้วยระบบ Reverse Auction และ AI
บันยันกรุ๊ป คว้ารางวัลเกียรตินิยมสูงสุดจากงาน ‘International Property Awards 2024/5’