วันอาทิตย์, 7 กรกฎาคม 2567

ตร.ภ.4 ยึดเฮโรอีนและยาไอซ์ เตรียมส่งประเทศที่ 3 ได้ตัวผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก “ยรรยง” เผย หากส่งขายสำเร็จจะมีมูลค่าพุ่งเป็นร้อยเท่า

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 30 มิ.ย. 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 ,พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ , นายภิญโญ โฆษิต ผอ.ปปส.ภาค 4 และ พ.อ.จักรพงษ์ โพธิ์นาแค รองเสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกันแถลงข่าว ผลการจับกุม นายพายุ บนน้อม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.2 ต.หนองอียอ อ.สนม จ.สุรินทร์, นายอดิศักดิ์ เขียวขา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ม.3 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ น.ส.มะลิดา ณ หนองคาย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185/3 ม.7 ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังร่วม ปปส. และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรีจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนในเขตบ้านดงบัง ม.5 ต.ดงบึง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ พร้อมของกลาง เฮโรอีนอัดแท่ง จำนวน 400 แท่ง น้ำหนักรวม 140 กิโลกรัม ,ยาไอซ์ จำนวน 300 ห่อ น้ำหนัก 300 กิโลกรัม ,รถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโว่แคปสีบรอนด์ ติดทะเบียน ผต-1498 อุดรธานี และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสันอัลเมร่า สะน้ำตาล ทะเบียน ขท-8550 ชลบุรี

พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ภายหลังจากหน้าที่ตำรวจ สภ.เหล่าหลวง จ.บึงกาฬ สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ เข้าไปยังพื้นที่ภาคกลาง จึงรายงานให้ผู้บัญชาทราบ จากนั้นมีการประสานงานการทำงานร่วมทุกหน่วยงาน เพื่อสนธิกำลังกันเฝ้าระวัง และสืบสวนจับกุม เนื่องจากการลักลอบขนยาเสพติดครั้งนี้มีจำนวนมาก จนกระทั่งช่วงเย็นวันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่พบว่ามีรถยนต์กระบะต้องโตโยต้า วีโว่แคปสีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน ผต-1498 อุดรธานี จอดอยู่ริมถนน ในพื้นที่บ้านดงบัง จึงเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด รวมทั้งตรวจสอบทะเบียนผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวแล้วพบว่า ทะเบียนที่ติดนั้นเป็นทะเบียนปลอม ซึ่งทะเบียนของรถกระบะที่ถูกต้องคือหมายเลขทะเบียน บล-4429 สระบุรี แต่ขณะนั้นไม่มีคนขับ ต่อมาวันที่ 28 มิ.ย. ได้มีรถเก๋งนิสสันอัลเมร่า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขท-8550 ชลบุรี มีผู้ชายเป็นคนขับและผู้หญิงนั่งคู่มาที่เบาะหน้า ผู้ชายอีกคนนั่งที่เบาะหลัง ขับวนไปมาในหมู่บ้านหลายรอบ จากนั้นก็จอดรถ และมีผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหลัง ลงจากรถ ไปเปิดประตูรถกระบะทำการสตาร์ทรถ แต่สตาร์ทไม่ติด

” จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุมตัวไว้ได้ทั้ง 3 คน โดยที่นายพายุ เป็นคนที่ลงจากรถเก๋งไปสตาร์ทรถกระบะ ส่วนนายอดิศักดิ์ เป็นคนขับรถเก๋งและน.ส. มะลิดา เป็นเพื่อนสาวที่นั่งมาในรถเก๋งด้วยกัน ซึ่งจากการตรวจค้นในรถกระบะที่บริเวณแคป มีกระสอบบรรจุสิ่งของวางอยู่ทั้งหมด 12 ใบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแกะออกดูจึงพบว่า เป็นเฮโรอีนและยาไอซ์จำนวนมาก จึงยึดเป็นของกลาง และควบคุมตัวทั้ง 3คนไปสอบสวน ซึ่งจากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่า อยู่ในกลุ่มของคนรับจ้าง หรือเป็นที่เรียกกันว่านักบิน ที่ทำการรับจ้างขนยาเสพติด จากจังหวัดในแถบชายแดนริมฝั่งโขงของภาคอีสาน เข้าไปยังพื้นที่ภาคกลางและปริมณทล โดยร่วมกันทำมาแล้ว 2 ครั้ง ได้รับค่าจ้างครั้งละ 60,000 บาท”

ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาให้การอีกว่าการลักลอบขนยาเสพติดครั้งเป็นครั้งที่ 3 โดยไม่ทราบว่า ผู้ว่าจ้างเป็นใคร แต่การทำงานทุกครั้ง จะมีคนคอยอำนวยความสะดวกในการเอารถไปจอดไว้ตามที่ต่างๆ จากนั้นคนสั่งการก็จะโทรศัพท์แจ้ง จึงรับจ้างทำงาน ด้วยการไปขับรถที่มียาเสพติดอยู่ในรถไปส่งยังภาคกลาง ซึ่งจุดหมายปลายทางนั้นผู้ว่าจ้างจะโทรศัพท์บอกอีกครั้งว่า จุดใด เมื่อทำงานสำเร็จ ก็จะมีคนโอนเงินเข้าบัญชีให้ แต่การทำงานในครั้งนี้ ทราบเพียงว่า มีรถยนต์กระบะจอดไว้ริมถนน จึงได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวที่มึคนนำมาจอดไว้ให้ข้างถนนจากในเมืองบึงกาฬ แล้วขับไปยังจุดที่รถกระบะจอด เพื่อจะขับรถกระบะที่มียาเสพติดในรถไปส่งลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง ขณะทำการสตาร์ทรถ แต่รถสตาร์ทไม่ติดจึงถูกตรวจค้นและจับกุมตัวได้

“ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 เฮโรอีน,ไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และยังจะถูกสอบสวนขยายผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องในการค้ายาเสพติดในครั้งนี้ ทั้งเจ้าของรถยนต์2 คัน และคนที่สั่งการ รวมถึงคนที่โอนคนค่าจ้างด้วย และทั้ง 3 คน ยังจะถูกยึดทรัพย์ด้วย ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อที่อยู่ของคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วและเป็นคนที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีชื่อในบัญชีของตำรวจและปปส.ภาค4 ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุม บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของยาไอซ์และเฮโรอีนที่ถูกยึดได้ในครั้งนี้ จะมีการนำส่งไปยังพื้นที่ภาคกลาง ภาคใต้และส่งต่อไปยังประเทศที่3 ซึ่งหากถูกส่งออกไปยังประเทศที่ 3 มูลค่ายาเสพติดจะมีมูลค่าสูงเป็นร้อยเท่าอีกด้วย”

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าวมวลชนไทยนิวส์ข่าวออนไลน์-0628929797 DNk79R.jpg sAyptI.jpg Phh9Db.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Aqh3Ka.jpg Dp1Qd0.png