ขอนแก่นตั้ง รพ.สนามแห่งที่ 4 รับผู้ป่วยโควิดกลับบ้าน พร้อมประสานงานร่วมทุกหน่วยงานจัดระบบการขนส่งให้เป็นระบบ เพื่อให้คนขอนแก่นได้กลับบ้านทุกคน พร้อมส่ง พณ.ตรวจสอบการจำหน่ายสมุนไพรไทย ป้องกันการขายเกินราคา
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 30 ก.ค.2564 ที่อาคารกองร้อยกองบังคับการ กรมทหารม้าที่ 7 ค่ายเปรมติณสูลานนท์ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.สมบัติ จินดาศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 และ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนาม จ.ขอนแก่น แห่งที่ 4 (ค่ายเปรมติณสูลานนท์) โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานและรับทราบถึงแนวทางการปฎิบัติตามระบบการให้บริการด้านสาธารณสุขอย่างพร้อมเพรียง
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า รพ.สนามขอนแก่นแห่งที่ 4 (ค่ายเปรมติณสูลานนท์) จะเน้นหนักการรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอตอนบนของจังหวัด ในความรับผิดชอบหลักของ รพ.สมเด็จพระยุพราชกระนวน และ รพ.ในพื้นที่ที่จะส่งบุคลากรทางการแพทย์มาประจำการตามระบบการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะเริ่มรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเข้ารับการรักษา ที่ รพ.แห่งนี้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) เป็นต้นไป และแม้ว่า รพ.สนามแห่งนี้ เฟสแรกจะรองรับผู้ป่วย 180 เตียง และหากสถานการณ์ที่จะมีผู้ป่วยมากกว่านี้ กองพบทหารม้าที่ 3 ก็พร้อมจะเปิดเฟสสอง รับผู้ป่วยชาวขอนแก่น ในกลุ่ม 5 อำเภอตอนบนได้เข้ารับการรักษาตามระบบการส่งต่อผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้
“ขอให้ชาวขอนแก่น ทั้งที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือสีแดงเข้ม หรือจังหวัดต่างๆ ทั้งที่ยืนยันติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อได้เข้าระบบการรายงานตัวผ่านชุมชนหรือ อสม. โดยเฉพาะผู้ป่วย ที่จะต้องผ่านระบบการส่งต่อตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ กระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบการนำส่งผู้ป่วยทั้งทางรถยนต์และรถไฟ ดังนั้นขอให้คนขอนแก่นทุกคนที่ต้องการจะกลับมารักษาที่บ้าน หรือต้องการกลับบ้านในสถานการณ์ที่กำลังเกืดขึ้น ขอให้กลับบ้านอย่างถูกวิธีและในช่องทางที่ภาครัฐกำหนดเพื่อลดความเสียงของการแพร่กระจายของเชื้อและเข้าสู่อ้อมกอดของครอบครัวตามระบบที่ทุกหน่วยงานได้กำหนดไว้อย่างปลอกภัย”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ยอมรับว่ายังคงมีบางส่วนที่ลักลอบเดินทางกลับบ้านหรือเข้ามาในเขต จ.ขอนแก่น โดยไม่แจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ผ่านการเดินทางในช่องทางต่างๆดังนั้นจึงขอให้ชุมชนได้ช่วยเป็นหูเป็นตาโดยเฉพาะหากพบว่ามีคนขอนแก่นตกค้างอยู่ที่ใด ขอให้แจ้งกับทางจังหวัดหรือ สสจ.ได้รับทราบและจัดรถรับเพื่อเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ชุดเฉพาะกิจพาณิชย์จังหวัดจะลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายสมุนไพรไทยต้านไวรัส ที่ขณะนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งหากพบว่ามีการจำหน่ายเกินราคาก็จะต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่กำหนดไว้
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >