ส.ป.ก. จับมือ อีอีซี ร่วมพัฒนาสมุนไพรไทยครบวงจร ในเขตปฏิรูปที่ดิน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) เป็นประธานและสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาสมุนไพรอย่างครบวงจรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ภายใต้แผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ในวันอังคารที่ 24 สิงหาคม 2564 ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 ตำรับยาไทยและสมุนไพรไทย โดยเฉพาะ”ฟ้าทะลายโจร” และ “กระชายขาว” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ยับยั้งการกระจายตัวของเชื้อไวร้สโคโรน่า 2019 (COVID-19)ได้ ทำให้ตลาดมีความต้องการสูง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สนับสนุนให้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกและขยายพันธุ์สมุนไพรในเขต ส.ป.ก. แบบครบวงจร จนนำมาสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาสมุนไพรอย่างครบวงจรในครั้งนี้ ซึ่งผม รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นประธานสักขีพยานและได้เห็นความก้าวหน้าและความสำเร็จของ ส.ป.ก. ในอีกขั้นหนึ่งที่จะวิจัยและพัฒนาต่อยอดพืชสมุนไพรไทยด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ร่วมกับ สกพอ.(สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก”
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)โดย ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)โดย ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาสมุนไพรอย่างครบวงจรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ภายใต้แผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาพืชสมุนไพรอย่างครบวงจรตั้งแต่การเพาะปลูก การดูแลปราบศัตรูพืชและแมลง การเก็บเกี่ยว การส่งเสริมคุณภาพการผลิต การแปรรูป ไปจนถึงการจัดการและการตลาด โดยหน่วยงานทั้งสองจะร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาพืชสมุนไพรและกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับสมุนไพรไทยในเขตปฏิรูปที่ดิน ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ ให้มีความปลอดภัยและมีคุณภาพตามความต้องการของตลาด ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เผยว่า “ความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาสมุนไพรไทยแบบครบวงจรครั้งแรกในเขต ส.ป.ก. เพื่อช่วยต่อยอดและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรตลอดจนกลุ่มเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินในการเพาะปลูกและแปรรูปสมุนไพรไปสู่ระบบมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้พี่น้องเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ EEC (EEC : Eastern Economic Corridor) มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >