วันพุธ, 27 พฤศจิกายน 2567

รัฐบาลแจงคืบหน้ามาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา โอนแล้ว 2.17 หมื่นล้าน เร่งเยียวยานักเรียน-นักศึกษา

รัฐบาลแจงคืบหน้ามาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา โอนแล้ว 2.17 หมื่นล้าน เร่งเยียวยานักเรียน-นักศึกษานางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการ โดยมีความคืบหน้าดังนี้

กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้เริ่มการเบิกจ่ายเงินสำหรับโครงการ “อว.ลดค่าเทอม” แล้วตั้งแต่ 26 ส.ค.64 สำหรับมหาวิทยาลัยและสถาบันที่ได้จัดส่งข้อมูลผ่านการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง ขณะนี้มีจำนวน 29 แห่ง รวมเป็นเงิน 2,250 ล้านบาท ซึ่งมหาวิทยาลัย/สถาบันอุดมศึกษาจะนำไปใช้ลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาภาคเรียนที่ 1/2564 ในสัดส่วนเงินสนับสนุนจากรัฐบาลตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้เร่งติดตามและตรวจสอบระบบการเบิกจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด เงินทุกบาทที่รัฐบาลสนับสนุน ต้องถึงมือนิสิตนักศึกษา คืนให้กับคนที่ได้ชำระค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาไปแล้ว หรือใช้ลดค่าเทอมและค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับผู้ที่กำลังจะชำระเงิน โดยมหาวิทยาลัยไม่เก็บเงินดังกล่าวไว้แต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งให้เร่งตรวจสอบและยืนยันข้อมูลนักศึกษาส่งมาที่กระทรวงโดยเร็ว เพื่อดำเนินการอนุมัติเบิกจ่ายแก่สถาบันที่เหลือ อีกประมาณ 100 กว่าแห่ง ให้เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาต่อไป 

ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาผู้ปกครองและนักเรียน จำนวน 2,000 บาท กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับงบประมาณ จำนวน 1.95 หมื่นล้านบาท สำหรับเด็กนักเรียน 9.79 ล้านคน เมื่อ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา และทำการจัดสรรไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแลแล้ว ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยแต่ละสำนักงาน จะโอนเงินไปให้โรงเรียนภายใต้สังกัดต่อไป และโรงเรียนจะโอนเงินหรือจ่ายเป็นเงินสด (หากไม่สามารถโอนเงินได้) ถึงมือผู้ปกครองตั้งแต่วันที่ 1-7 ก.ย. ทั้งนี้ ผู้ปกครองที่ไม่ได้รับเงินภายในเวลาดังกล่าว ขอให้ติดต่อโรงเรียนที่บุตรหลานศึกษาอยู่ หรือโทร หมายเลข 1579 / 1693

“นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทั้งสองกระทรวง ติดตามตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด ทุกขั้นตอน ไม่ให้มีการทุจริต ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องถึงมือผู้ปกครองนักเรียน และนักศึกษาอย่างครบถ้วน” นางสาวรัชดา กล่าว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DNk79R.jpg Phh9Db.jpg sAyptI.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Aqh3Ka.jpg Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg 2QOy3y.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
งานประชุม Vaccine World Asia Congress 2024 – South East Asia Focused
ขอนแก่นกับงานยักษ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 งานแถลงข่าว “Plara Morlam Isan to the World’24”
ที่สุดของบทสรุป/บัญญาย่าคว้าชัยสนามสุดท้าย มาร์ตินคว้าแชมป์โลก MotoGP ปี 2024
ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ กสทช. ดีอี ปภ. จ.ภูเก็ต นำร่องทดสอบระบบเตือนภัยเสมือนจริง “LIVE – Cell Broadcast Service” ที่ภูเก็ตเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
การเตรียมความพร้อมโมเดลภาษาขนาดใหญ่สำหรับนักธุรกิจ
Sunplay Asia แถลงข่าวแนวคิดที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมคุณภาพ: ยกระดับการอยู่อาศัยด้วยแนวคิด Environmental/Rehabilitation & Sustainable Living