“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ วัดจากแดง และสหพัฒน์ นำร่องขยายพื้นที่โครงการ Care the Whale “ขยะล่องหน” ชวนชุมชนคุ้งบางกะเจ้านำขยะมาแลกเป็นของ”
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ วัดจากแดง และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) นำร่องขยายพื้นที่ความร่วมมือโครงการ Care the Whale สู่ชุมชน ขับเคลื่อนการดำเนินการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ริเริ่ม “สถานีขยะล่องหน @ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า” เข้าถึงประชากรกว่า 40,000 คน 13,200 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ใน 6 ตำบล ได้แก่ ต.บางกะเจ้า ต.บางกอบัว ต.บางน้ำผึ้ง ต.บางกระสอบ ต.บางยอ และ ต.ทรงคนอง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการส่งเสริมการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบด้วยการนำขยะมาสะสมแต้มเพื่อแลกของใช้อุปโภคบริโภค และนำขยะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์กลับคืนสู่ชุมชน เป้าหมายเพื่อลดภาวะโลกร้อน พร้อมสร้างกลไกลดค่าครองชีพ ช่วยเหลือชุมชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19
พระเมธีวชิรโสภณ (ประนอม ธมฺมาลงฺกาโร) เจ้าอาวาสวัดจากแดง กล่าวว่า วัดจากแดงเริ่มบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมภายในวัดและชุมชนมาตั้งแต่ปี 2548 โดยได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐและเอกชน ทำให้ปัจจุบันวัดจากแดงเป็นศูนย์กลางและเป็นแหล่งเรียนรู้การบริหารจัดการขยะของชุมชนทั้งในพื้นที่คุ้งบางกระเจ้าและเป็นต้นแบบให้แก่พื้นที่อื่น โครงการ “สถานีขยะล่องหน @ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า” จะเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของการบริหารจัดการขยะที่ส่งเสริมให้เกิดความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม โดยวัดจากแดงซึ่งมีความใกล้ชิดกับชุมชนจะดำเนินงานในส่วนของสถานีขยะล่องหนซึ่งเป็นจุดแลกขยะเป็นของ และเชื่อมต่อการแปรรูปขยะเป็นผลิตภัณฑ์ โต๊ะ เก้าอี้ อิฐบล็อก และน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ประโยชน์กลับคืนสู่ชุมชน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการ Care the Whale “ขยะล่องหน” เป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะทำให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วนตามวิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” โดยได้ร่วมกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคสังคม ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยปีนี้โครงการ Care the Whale ขยายจากพื้นที่ต้นแบบการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมย่านถนนรัชดาภิเษก สู่ความร่วมมือชุมชน นำร่อง “สถานีขยะล่องหน @ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า” มีเป้าหมายเพื่อร่วมส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยกระบวนการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยการออกแบบสถานีขยะล่องหนให้ชุมชนแยกขยะ ได้แก่ ขวดพลาสติกใส ขวดพลาสติกสีขุ่น ถุงใส่อาหาร และเสื้อผ้าไม่ใช้แล้ว มาสะสมแต้มเพื่อแลกของใช้อุปโภคบริโภคคุณภาพจาก บมจ. สหพัฒนพิบูล พร้อมสร้างจิตสำนึกให้กับชุมชนในด้านการจัดการขยะและการมีมุมมองว่าขยะไม่ใช่ขยะและมีมูลค่า สอดคล้องกับแนวคิด “ขยะล่องหน” นำขยะที่รับแลกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์กลับคืนสู่ชุมชน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนเครื่องมือคำนวณก๊าซเรือนกระจก Climate Care Platform ในการจัดการฐานข้อมูลขยะและคำนวณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
“สถานีขยะล่องหน @ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า ตั้งเป้าจะมีปริมาณขยะถูกนำมาเข้าโครงการ และนำไปสู่กระบวนการรีไซเคิลประมาณร้อยละ 20 ของปริมาณขยะในคุ้งบางกระเจ้า ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4,000 กิโลกรัมต่อเดือน นอกจากนี้ การดำเนินงานของ สถานีขยะล่องหน @ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า ยังเป็นการสร้างกลไกลดค่าครองชีพช่วยเหลือชุมชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย” นายภากร กล่าวเสริม
นางผาสุข รักษาวงศ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการตอบสนองความต้องการและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ซึ่งสิ่งหนึ่งที่บริษัทฯ ทำควบคู่กับการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด คือ การให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งสร้างจิตสำนึกในด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานในองค์กร และชุมชนภายนอกองค์กรอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้มีการปลูกฝังพฤติกรรมการคัดแยกขยะให้แก่เยาวชน เพื่อให้โรงเรียนและภาคครัวเรือนสามารถนำขยะไปรีไซเคิลหรือกำจัดได้อย่างถูกวิธี สำหรับความร่วมมือกับวัดจากแดงและตลาดหลักทรัพย์ฯ ในโครงการ “สถานีขยะล่องหน @ชุมชนคุ้งบางกะเจ้า” นับว่าสอดคล้องกับความมุ่งหมายของสหพัฒน์สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในมิติของสังคมและสิ่งแวดล้อม และการที่สหพัฒน์ได้ร่วมสนับสนุนสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อให้ชุมชนนำขยะมาแลกนั้น บริษัทฯ คาดหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือชุมชน ทำให้ชุมชนได้รับสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นที่จะช่วยลดค่าครองชีพในสถานการณ์โควิด-19
โครงการ Care the Whale “ขยะล่องหน” เริ่มดำเนินงานเมื่อปลายปี 2562 ถึงปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรกว่า 40 องค์กร ตั้งต้นจากชุมชนย่านรัชดาภิเษกขยายสู่พื้นที่นอกย่านทั่วกรุงเทพฯ ร่วมกันลดก๊าซเรือนกระจกจากการบริหารจัดการขยะและคัดแยกขยะได้แล้ว 10,218 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่าการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ใหญ่ 1,135,370 ต้น โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรมุ่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม สร้างสมดุลระบบนิเวศ สู่การลดภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ข้อ 13 “Climate Action” ข้อ12 “Responsible Consumption and Production” และข้อ 17 “Partnerships for the Goals” ติดตามการดำเนินงานภายใต้โครงการ Care the Whale “ขยะล่องหน” ได้ที่ www.setsocialimpact.com หรือ Facebook: Care the Whale
“SET…Make it Work for Everyone”
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >