ขอนแก่นพร้อมจองวัคซีน “ชิโนฟาร์ม” ฉีดให้กับเด็กๆรับเปิดเทอม รอ อย. รับรองพร้อมประสานจัดซื้อจากเทศบาลฯถึงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รวม 60,000 โดส ทันที
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ก.ย. 2564 ที่ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลฯ และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการฉีดวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม อำนวยความสะดวกและจัดระบบการให้บริการวัคซีนทางเลือกตามที่เทศบาลนครขอนแ่กน จัดหาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นและกลุมเป้าหมาย ซึ่งวันนี้ที่หน่วยบริการวัคซีน รพ.ศรีนครินทร์ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น เป็นการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มคนไร้บ้านและกลุ่มเปราะบาง ที่อาศัยอยู่ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ตามแผนการจัดระบบการฉีดวัคซีน
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า การให้บริการวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์มตามที่เทศบาลฯได้จัดหาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทั้งสิ้น 55,000 คน ขณะนี้การเร่งการฉีดวัคซีนดังกล่าวดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้นอกจากการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ที่ได้รับการยืนยันจากระบบที่เทศบาลฯกำหนดแล้ว ยังคงมีกลุ่มคนไร้บ้าน กลุ่มคนเร่ร่อน คนเปราะบาง ที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลฯจากเดิมที่มีการคัดกรองในเบื้องต้นประมาณ 90 คน วันนี้เข้ารับการฉีดวัคซีน 66 คน ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้ถึงที่ตามฐานข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันขณะนี้เทศบาลฯ ได้มีการประสานงานร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการให้บริการวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์มให้กับเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 12-18 ปี ที่ขณะนี้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ทำการประสานกับ อย.เพื่อนำวัคซีนชิโนฟาร์มมาฉีดให้กับเด็กและเยาวชนในกลุ่มดังกล่าวแล้ว
“เราได้ติดตามข่าวจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ซึ่งกำลังนำเสนอวัคซีนซิโนฟาร์มให้ อย. รับรองว่าสามารถฉีดให้กลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 12-18 ปี ได้ ถ้าได้รับรองจาก อย.และมีการประกาศให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจองได้และนำมาฉีดให้กับเด็ก อายุ 12-18 ปี ซึ่งทันทีที่ได้รับการอนุญาตและมีการประกาศจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เทศบาลฯ ก็พร้อมที่จะจองวัคซีนมาฉีดให้กับเด็กและเยาวชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งขณะนี้ได้กำหนดเป้าหมายการฉีดแล้ว 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มนักเรียนในสังกัดโรงเรียนเทศบาล 11 แห่ง ซึ่งพบว่ากลุ่มอายุ 12-18 ปี จากการสำรวจเบื้องต้นมีประมาณ 4,487 คน กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มเด็กเยาวชนในชุมชน และกลุ่มที่ 3 คือเด็กและเยาวชนที่มาเรียนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น”
นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ทันทีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้รับการรับรอง จาก อย.ว่า วัคซีนชิโนฟาร์ม สามารถนำมาฉีดให้กับเด็กและเยาวชนได้ เทศบาลฯ ก็พร้อมที่จะประสานงานและสั่งจองทันที ซึ่งคาดว่ายอดรวมเด็กและเยาวชนทั้ง 3 กลุ่มที่เทศบาลฯกำหนดนั้น อยู่ที่ประมาณ 30,000 คน ซึ่งเทศบาลฯจะจองวัคซีนให้กับเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ รวม 60,000 โดส ซึ่งหาก อย. รับรองและให้สามารถดำเนินการได้ คาดการณ์ว่า ภายในเดือน ต.ค.จะสามารถที่จะเปิดจองได้ ดังนั้นเมื่อการจองวัคซีนแล้วเสร็จและเข้าสู่ขั้นตอนของการฉีดวัคซีน ก็จะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะฉีดวัคซีนให้เด็กเรียบร้อยก่อน จึงจะเปิดเทอมได้ในเทอมที่ 2 หรือเปิดเทอมก่อนเพื่อรอการจัดสรรและการฉีดวัคซีน ประเด็นนี้จะต้องมาคุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง
“การพิจารณาเปิดภาคเรียนในเทอม 2 นั้น ในส่วนของสถานศึกษาในสังกัดของเทศบาล 11 แห่ง ทั้งโรงเรียนและศูนย์เด็กฯ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คณะทำงานได้มีการประเมินร่วมกันมีอยู่ 2 แนวทางคือ คือเรื่องวัคซีนพื้นฐาน ถ้ารัฐบาลฉีดวัคซีนพื้นฐานให้กลุ่ม 608 ได้ถึง 70 % จากนั้นก็จะฉีดให้ประชาชนคนทั่วไปทั้งหมดในประเทศ ถ้าเป็นไปตามนั้นคาดว่าเดือน พ.ย. ประชาชนที่ฉีดเข็ม 1 คงมีไม่ต่ำกว่า 70 % ของประเทศ และต้องมาดูความเชื่อมั่นว่ามีมากน้อยเพียงใดถ้ามีความเชื่อมั่นการเปิดเทอมก็เป็นไปได้ ประการที่2 เฉพาะพื้นที่เขตเทศบาลนครขอนแก่นเองจากการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มของเทศบาลนครขอนแก่น สิ้นเดือนตุลาคมจะครบเข็ม 2 ทั้ง 55,000 คน และถ้าจองวัคซีนซิโนฟาร์มมาฉีดให้เด็กและเยาวชนอายุ 12-18 ปีได้ตามที่คาดการไว้ได้ การเปิดเทอมก็จะมีการกลับมาพิจารณาทบทวนกันอีกครั้ง ซึ่งอาจจะนำร่องเปิดเทอมในกลุ่มมัธยมศึกษา ทั้งหมดต้องรอดูภาพรวมจากแผนการประเมินร่วมทุกฝ่ายที่จะต้องสรุปกันอีกครั้ง”
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >