ตำรวจท่องเที่ยวรวบแก๊งค์ “3 ก.” 3 สาวสวยสุดแสบหลอกเช่ารถแล้วนำไปจำนำ เน้นเฉพาะรถที่มีราคาจากบริษัทรถเช่าในสนามบิน ก่อนนำมาจำนำให้กับนายทุนที่ขอนแก่นและกาฬสินธุ์ ตรวจสอบพบหมายจับอื้อ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 12 ก.ย.2564 ที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 (กก.1 บก.ทท.2 ขอนแก่น) พ.ต.อ.ชุมพล พิศลย์กุลพันธ์ ผกก. 1 บก.ทท. 2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ธนกิจไพโรจน์ รอง ผกก.1 บก.ทท. 2 และ พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ สว.กก.1 บก.ทท.2 นำกำลังเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.2 เข้าทำการจับกุม น.ส.ภัชนิดา หรือ ก้อย อายุ 39 ปี (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) น.ส.มยุรี หรือกิ๊ก อายุ 34 ปี (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) ปละ น.ส.ปัญจรัตน์ หรือ ไก่ อายุ 49 ปี (เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามสกุล) หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมตัวได้ขณะนี้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่อยู่ในเขต จ.อุดรธานี
พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ สว.กก.1 บก.ทท.2 กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในแก๊งค์ 3 ก. อยู่ในระหว่างการติดตามจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ในหลายท้องที่ เนื่องจากทุกคนมีหมายจับเป็นจำนวนมาก โดยที่ น.ส.ก้อย มีหมายจับ ของศาล จ.กาฬสินธุ์ 4 หมายจับ จ.ขอนแก่น 3 หมายจับ,น.ส.กิ๊ก มีหมายจับ ของศาล จ.ขอนแก่น 3 หมายจับและ น.ส.ไก่ มีหมายจับของศาล จ.อุดรธานี 1 หมายจับในฐานความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ,พรบ.บัตรประชาชน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและฉ้อโกง ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้รับการร้องเรียนจากผู้ให้บริการรถเช่าที่สนามบินขอนแก่นและอุดรธานี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น ว่าถูกคนร้ายทำเป็นขบวนการด้วยการขอเช่ารถและไม่สามารถติดตามรถกลับคืนมาได้
” ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวได้รับแจ้งจากผู้ให้บริการรถเช่ามาเมื่อเดือน ก.ย.2560 หลังพบว่ามีคนร้าย ใช้บัตรประชาชนของผู้อื่นทำสัญญาเช่ารถจากผู้ประกอบการให้เช่ารถที่สนามบินขอนแก่นและสนามบินอุดรธานี จากนั้นเริ่มจ่ายเงินไม่ตรงเวลาและไม่ยอมนำรถมาคืนตามสัญญการเช่นรถ เมื่อทวงถามเริ่มบ่ายเบี่ยง ผลัดวันเวลา จนกระทั่งไม่นำรถมาส่งคืนและไม่สามารถที่จะติดต่อได้อีก ซึ่งเมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทรถเช่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่เมื่อไปติดตามที่อยู่ตามบัตรประชาชนที่ให้ไว้ พบว่าเจ้าของบัตรประชาชนไม่รู้เรื่องการเช่ารถยนต์ดังกล่าว และคนร้ายยังคงหยามใจก่อเหตุในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง”
พ.ต.ท.วโรดม กล่าวต่ออีกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวภาคอีสาน จึงได้กำหนดแนวทางการสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งสืบทราบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวนี้นั้นกำลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามจับกุมตัวอยู่ จึงแกะรอยคนร้ายและติดตามจนทราบว่ารถยนต์ของผู้เสียหาย ถูกคนร้ายนำไปจำนำหรือขายต่อ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและ จ.กาฬสินธุ์ ขณะที่ผู้เสียหายได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการส่งมอบข้อมูลต่างๆตั้งแต่ขั้นตอนการเช่ารถ การติดตามจนกระทั่งครั้งล่าสุดไม่สามารถที่จะติดตามคนเช่าและรถได้ ทำให้การสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างรัดกุมและละเอียดในทุกขั้นตอน จนกระทั่งมีผู้เสียหาย 2 รายล่าสุด ชาว จ.อุดรธานี ที่เปิดให้บริการรถเช่าที่สนามบินอุดรธานี ถูกกลุ่มผู้ต้องหาเช่ารถยนต์ไปแล้วไม่นำรถยนต์ส่งคืนเมื่อครบสัญญาเช่าแล้ว ติดต่อไม่ได้ พยายามติดตามรถคืน จนพบว่าถูกนำไปจำนำ จึงได้นำเงินไปไถ่รถยนต์คืนมา ขณะที่อีกรายถูก น.ส.ไก่ เช่ารถแล้วเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่นำรถมาคืนและมีการนำรถไปจำนำกับนายทุนที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงทำให้การสอบสวนรัดกุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงได้ขออนุมัติจากศาลขอหมายจับตัวได้ยกแก๊งค์ขณะหลบซ่อนตัวที่ จ.อุดรธานี อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ผู้เสียหายทยอยมาชี้ตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >