ผู้สมัครนายก อบต. โนนสะอาด แย้ง!สื่อเสนอข่าวบิดเบือนความเป็นจริง หลังแพ้โนโหวต ทั้งที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว
ผู้สมัครนายก อบต. โนนสะอาด ต.โนนสะอาด อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่นผู้สมัคร 1เดียว แพ้คะแนนโนโหวต ขอความเป็นธรรมเสียความรู้สึก หลังสื่อบางสำนักตีข่าว “เป็นงง!มีคนเดียว ไร้คู่แข่ง แต่ดันแพ้คะแนนโนโหวต” เพราะการเสนอข่าวนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ผู้สี่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นได้ลงพื้นที่ ณ บ้านเลขที่ 5 ม.2 บ้านนาโพธิ์ ต.โนนสะอาด อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นายสนอง สอนกลาง ผู้สมัครนายก อบต. โนนสะอาด ต.โนนสะอาด อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่นหลังสิ้นสุดไปแล้วกับการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล และ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ที่ได้เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ได้ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกันเมื่อหลายวันก่อน
อย่างไรก็ตาม ที่จังหวัดข่อนแก่น มีอยู่ตำบลหนึ่ง ที่จะต้องทำการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากในเขตดังกล่าวนี้มีผู้สมัครอยู่คนเดียวคือ นายสนอง สอนกลาง แต่ดันแพ้คะแนนโหวต นายสนอง เป็นผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียว นั่นหมายความว่าตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาด ก็ต้องตกเป็นของนายสนองอย่างแน่นอน ทว่าในขณะที่นายสนองได้คะแนนจากการเลือกตั้ง 1,017 คะแนน กลับมีคะแนนโนโหวต1,911 คะแนน ซึ่งมากกว่าคะแนนโหวต ทำให้ผู้ลงเลือกตั้งแพ้คะแนนโหวตไป
เมื่อเป็นแบบนี้ ทางกกต.ขอนแก่น เตรียมจัดเลือกตั้งใหม่ 1 แห่ง หลังคะแนนโนโหวตมากกว่าคะแนนเลือกตั้ง การเลือกตั้งครั้งนี้พบว่า ที่อบต.โนนสะอาด อ.แวงใหญ่ พบว่าการเลือกตั้ง นายก อบต. ที่ผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน หรือคะแนนโนโหวต มากกว่าคะแนนของผู้สมัคร คือ คะแนนโนโหวต รวม 1,911 คะแนน ขณะที่คะแนนของผู้สมัคร นายก อบต.คือนายสนอง สอนกลาง ได้ 1,017 คะแนน ดังนั้น ขั้นตอนต่อไปคือ กกต.จะสรุปเรื่องส่งให้กับ กกต.กลาง ประกาศเลือกตั้งใหม่เฉพาะ นายก อบต.โนนสะอาด ซึ่งจะต้องเลือกตั้งใหม่ให้เสร็จภายใน 30 วัน ตามที่ กกต.กำหนด
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ขอทราบข้อมูลหลังจาก นายสนอง สอนกลาง ขอความเป็นธรรม พร้อมทั้งเสียความรู้สึก หลังสื่อบางสำนักตีข่าว “เป็นงง!มีคนเดียว ไร้คู่แข่ง แต่ดันแพ้คะแนนโนโหวต” เพราะการเสนอข่าวนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง
โดยนายสนอง กล่วว่าต้องขอขอบคุณ พี่ๆนักข่าวที่ได้สนใจสิ่งที่สื่อบางสำนักนำเสนอข่าวในทางที่บิดเบือนความเป็นจริง ด้วยการพาดหัวข้อข่าวว่า”เป็นงง!มีคนเดียว ไร้คู่แข่ง แต่ดันแพ้คะแนนโนโหวต” ซึ่งไม่เป็นธรรมสำหรับตัวเอง ที่ได้อ่านข่าวแล้วทำให้เสียความรู้สึก เพราะการเสนอข่าวนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง ลงสมัครในการรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาด เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ถึงวันที่ 15 ต.ค.64 ซึ่งก็ได้มีผู้สมัครด้วยกัน 2 คน โดยตนเอง จับฉลากได้เบอร์ 1ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อนายวิเชียร สุทธิประภา จับฉลากได้เบอร์ 2 ซึ่งเมื่อรับสมัครไปแล้วปรากฏว่าทางกกต. ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของตนเอง และของคุณสมบัติการศึกษาของคุณวิเชียร สุทธิประภา โดยนายวิเชียรใช้วุฒิการศึกษาแจ้งว่าจบที่การศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองสมุทรปราการ ส่วนตนเองนั้นใช้วุฒิการศึกษาที่จบระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ซึ่งได้การตอบรับหรือว่าการรับรองคุณสมบัติ จากทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย โดยได้ตอบยืนยันรับรองคุณสมบัติการศึกษาของตนมาอย่างถูกต้อง
ส่วนนายวิเชียร สุทธิประภา นั้นทางทาง กศน.เมืองสมุทรปราการ ไม่รับรองคุณสมบัติ โดยได้ดูจากคำวินิจฉัยกรรมการการเลือกตั้งที่ 979 / 2564 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายนพ.ศ 2564 ส่วนเรื่องการวินิจฉัยสิทธิ์สมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาด ปรากฏว่ามีคำสั่งมาจากกกต. กลางลงวันที่ 18 พ.ย.2564 เพิกถอนสิทธิ์ในการสมัครรับเลือกตั้ง เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาดหมายเลข 2
ทางฝั่งของนายวิเชียร สุทธิประภา ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาด หมายเลข 2 มีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ขอนแก่น ซึ่งหลังจากยื่นศาลอุทธรณ์ขอนแก่นแล้ว ได้มีการหาเสียงควบคู่กันมา ซึ่งเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ได้มีการตัดสินคือยกคำร้องของศาลอุทธรณ์จังหวัดขอนแก่น ไม่รับคำร้องของคุณวิเชียร สุทธิประภา โดยยืนยันตามกกต.กลาง ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พ.ย.เวลาประมาณ 09.:00 น ปรากฏว่าทางกกต.หรือว่าทางผู้อำนวยการการเลือกตั้งขององค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาด ได้มาปิดประกาศเพิกถอนถอนสิทธิเลือกตั้งของนายวิเชียรสุทธิประภา ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็ได้มีการวิ่งรถหาเสียงควบคู่กันไป จนเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ถึงได้มีการหยุดวิ่งรถหาเสียง เสร็จแล้วเมื่อวันที่ 27 ตอนเช้า จึงมีการดำเนินการถอดถอนป้ายสมัครหาเสียง แต่ก็ใช้เวลาหาเสียงตามปกติ แต่ที่จริงแล้วหลังจากที่มีการเพิกถอนถอนสิทธิเลือกตั้งของนายวิเชียร สุทธิประภา คงเหลือตนเองที่เป็นผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาดเพียงคนเดียว ซึ่งก็ได้ปฏิบัติทำตาม กฎกติกาการเลือกตั้ง ทุกประการ
แต่เมื่อมีการนำประเด็นการเลือกตั้งในครั้งนี้ ไปลงในสื่อ ทำให้ตกใจที่สื่อตีแผ่ โดยเนื้อข่าวบอกว่ามีผู้สมัครเพียงคนเดียวแล้วก็แพ้ โนโหวตไป ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นคือ มีผู้สมัคร 2 คน แต่อีกมึงคนถูกตัดสิทธิ์ไปก่อนหน้า 2 วัน เพราะใช้วุฒิการศึกษาปลอม ตนเองได้เริ่มลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลตั้งแต่ปี 40 เป็นสมาชิกและเป็นกรรมการมาสมัยหนึ่ง แล้วก็มาลงเป็น สมาชิก อบต.โนนสะอาดอีก พร้อมทั้งมาเป็นประธานกรรมการบริหาร ต่อจากนั้นก็มาเป็นนายกฯอบต.โนนสะอาด เป็นติดต่อกัน 3 สมัย ต่อมาปรากฏว่าประชาชนเห็น ดำรงตำแหน่งเป็นนายกอยู่นาน เลยคิดว่าจะมีคนอื่นที่ดีกว่าก็เลยเปลี่ยน ทำให้สอบตกไปสมัยหนึ่ง ครั้นพอสอบตกไปแล้ว ชาวบ้านพี่น้องประชาชน ได้มาร้องขอให้กลับมาอีก ซึ่งผลปรากฏว่าได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสะอาด อีกครั้งในปี 56 จนถึงการครบวาระ รวมทั้งที่คสช.ให้รักษาการ โดยทำงานท้องถิ่นตามคำเรียกร้องที่พี่น้องเรียกใช้กว่า20ปี
แต่การมาสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ มีความน้อยใจว่า ตนเองเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะว่าต้องมาแพ้ การลงคะแนนโนโหวต ช่วง 2 วัน ก่อนหน้าวันเลือกตั้ง โดยนึกว่าจะทำตามกติกา ซึ่งไม่คิดว่าเขาจะทำการรณรงค์ ล็อบบี้ ให้การลงคะแนนโนโหวต เพื่อที่จะลบล้างให้ตนเองหมดสิทธิ์ในการลงสมัครในครั้งนี้ ยิ่งแย่ไปกว่านั้นการที่สื่อได้นำไปลงพาดหัวข้อข่าวว่า”เป็นงง!มีคนเดียว ไร้คู่แข่ง แต่ดันแพ้คะแนนโนโหวต” เมื่ออ่านแล้ว ทำให้มีความรู้สึก เปรียบแล้วเหมือนเรานี่แย่ๆจนชาวบ้านไม่ต้องการ ข้อเท็จจริงแล้วถ้าไปถามพี่น้องประชาชน ในตำบลโนนสะอาดลองไปถามความเป็นจริง ซึ่งเขาไม่รู้ด้วยซ้ำ ซึ่งมีนัยยะจากผู้นำ 4-5 คนไปที่ประชาสัมพันธ์ในการที่จะลงโทษ หรือชี้นำในการให้กาในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์ตามบ้าน ซึ่งผู้นำดังกล่าวจะอธิบายว่ากา ไม่ประสงค์จะลงคะแนน ไม่มีผิดกฎหมายกาได้เลย ย้ำแล้วย้ำ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผู้นำชุมชนไม่น่าควรกระทำ หรือชี้นำประชาชน ในเรื่องดังกล่าวเพราะมันไม่เหมาะสม ควรเอาความเป็นจริงมาสื่อจะดีกว่าไหม
ด้านแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยรายชื่อ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า จากข่าวดังกล่าวนักข่าวน่าจะสอดความจริงให้ลึกกว่านี้ว่าจริงๆมีผู้สมัคร2เบอร์แต่เบอร์2ขาดคุณสมบัติไม่จบม.6จึงถูกถอนชื่อออกก่อนวันเลือกตั้งเพียง2วันนักข่าวน่าจะเจาะประเด็นดังบ้างว่าเพราะอะไรเพราะการลงข่าวเพียงเท่านี้ทำให้ประชาชนมองมุมเดียวว่าผู้สมัครที่เหลือเพียงคนเดียวกลับโดนโหวตโนได้น่าสงสัยไหมล่ะ
จากข่าวนี้รู้สึกไม่เป็นธรรมกับผู้สมัครเลย. ผู้สมัครมีคนเดียวไร้คู่แข่งไม่จริงเลย…แต่ดันแพ้โนโหวต อ่านแล้วละเหี่ยใจ..จากการทุ่มเทในการทำงานของอดีตนายกอบต.กว่า5สมัย ความจริง1.มีผู้สมัคร2เบอร์ แต่เบอร์2ถูกถอนสิมธิ์ตาม ควฉ.กกต.ฉบับที่979/2564 ลงวันที่17พ.ย.64 และถูกถอนสิทธิ์เพียง2วันก่อนวันเลือกตั้งอีกทั้งยังส่งคนประโคมข่าวและประชาสัมพันธ์ให้โนโหวต (ตามคำบอกเล่าว่ามีการแจกเงิน300-500ในการโนโหวตครั้งนี้ซึ่งไม่มีหลักฐาน)
ประเด็นที่2. นายสนองเป็นนายกมานานหลานสมัยเคยไม่ผ่านมา1สมัยแต่ก็ลงสมัครกลับมาเป็นนายกได้อีก หากไม่เป็นคนดีจริงไม่ทำงานจริง ไม่ช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจังคงไม่ได้ดำรงค์ตำเหน่งมานาน
ประเด็นที่3. ไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยหรือว่าทำไมคะแนนโนโหวตถึงมากมายขนาดนั้นมันต้องมีที่มาที่ไปและกติกาไทยเพียงแค่แพ้โนโหวตก็ไม่สามารถลงใหม่ได้มันไม่ยุติธรรมเลยกับคะแนนคนที่ต้องการให้คนไปทำงาน
จากการเลือกตั้งนายวิเชียร สุทธิประภาผู้สมัครหมายเลข2 ซึ่งเป็นบุคคลที่มีเงินแต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ต.โนนสะอาด เขามีกิจการที่กทม. เขาต้องการมาลงนายกอบต.แต่ด้วยวุฒิการศึกษาที่ปลอมตามควฉ.กกต.กลาง ทำให้เขาโดนถอนสิทธิ์ แต่การถอนสิทธิ์มีหนังสือมาถอนแค่2วันก่อนเลือกตั้ง เขาก็ยังไม่เก็บป้ายโฆษณาพร้อมทั้งยังไปบอกกับพี่น้องชาวโนนสะอาดให้โนโหวตเพื่อจะได้มีการเลือกตั้งใหม่
โดยสื่อมวลชนเชื่อไหมเขาไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาทำ(ปลอมวุฒิ) เขาไปบอกคนประโคมข่าวว่านายสนองกลั่นแกล้ง ทำทุกวิถีทางเพราะเขาแค้นที่เขาเสียหน้า.