คนร้ายย่องเงียบกลางดึก ขโมย จยย.-กระเป๋าเงิน-กระปุกออมสิน หลบหนีลอยนวล แจ้งความคดีไม่คืบ แถมคนร้ายยังขับ จยย.คันที่ขโมยไปขับสวนเจ้าของหน้าตาเฉย วอนตำรวจเร่งล่าเพราะรถเพิ่งซื้อมา และ กระปุกออมสินหลานสาวร้องไห้ถามหาทุกวัน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ม.ค.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้าย เข้ามาทำการลักทรัพย์ภายในบ้านพักเลขที่ 9 ม.2 บ.หนองกุง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความพร้อมทั้งรำหลักฐานต่างๆมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่แต่ดียังคงไม่มีความคืบหน้าและคนร้ายยังคงยังขับรถจักรยานยนต์ที่ขโมยไปขับขี่อยู่ภายในหมู่บ้านและในเขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบกับนายยอดทอง แก้วกิ่งจันทร์ อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวซึ่งได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ในจุดที่คนร้ายก่อเหตุ ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านและบ้านข้างเคียงบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด
นายยอดทอง แก้วกิ่งจันทร์ เจ้าของบ้าน กล่าวว่า วันที่เกืดเหตุคือช่วงเวลาประมาณ เกือบ 1 นาฬิกาของวันที 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวได้พักผ่อนอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน โดยเปิดประตูโรงรถไว้ 1 บานและประตูหลังบ้านไม่ได้ล็อค เนื่องจากลูกชายยังไม่กลับบ้าน แต่ได้ยินเสียงเหมือนคนเข้ามาในบ้านซึ่งขณะนั้นคาดว่าน่าจะเป็นลูกชายจึงไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งรุ่งเช้า ครอบครัวจะออกไปทำงานพบว่ากระเป๋าเงินที่วางไว้ที่บริเวณตู้ชั้น 1 ของบ้านหายไป และพบรอยเท้าและรอยดินเต็มพื้นชั้นล่างของบ้านจึงได้ตะโกนให้คนในบ้านได้ทราบว่ามีขโมยเข้าบ้าน
“เมื่อผมได้ยินก็ได้พากันตรวจสอบรอบบ้าน พบว่ากระเป๋าเงิน ที่วางไว้บนตู้ชั้น 1ของบ้านได้หายไปซึ่งภายมีเงินสดประมาณ 300 บาทและเอกสารสำคัญหลายอย่าง จากนั้นได้มาตรวจสอบชั้น 1 ของบ้านพบกระปุกออมสินที่วางไว้ บริเวณตู้ ห้องโถงชั้น 1 ของบ้านหายไป มีดทำครัว 1 เล่มหายไป และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน คจน-297 ขอนแก่น ที่จอดไว้โรงรถได้หายไปด้วยจึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น เดินเข้ามาในบ้านบริเวณประตูโรงรถ และเดินเข้ามาในบ้านบริเวณประตูหลังบ้านซึ่งไม่ได้ล็อค จากนั้นเมื่อเข้ามาคาดว่าได้มาขโมยกระเป๋าเงินที่วางไง้ และขโมยกระปุกออมสินของหลาน และก่อนที่จะออกจากบ้านก็ได้หยิบมีดทำครัว และมาขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้และหลบหนีไป”
นายยอดทอง กล่าวต่ออีกว่า ขณะตรวจสอบรอบบ้านก็พบรอยปูนของกระปุกออมสินของหลานตกอยู่ในจุดจอดรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยไป ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้มีดมาแคะกระปุกและเอาเงินของหลานสาววัยขวบเศษ ที่ภายในมีเงินอยู่ประมาณ 2,000 บาท โดยหลังจากที่แคะเอาเงินได้คนร้ายก็นำกระปุกออมสินมาทิ้งไว้ที่เก็บขยะของบ้านและขับรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งจะซื้อมาได้ไม่กี่วันหลบหนีไปทางปากทางหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ย่อยศิลา รวมทั้งมอบคลิปหลักฐานต่างๆรวมทั้งภาพผู้ต้องสงสัยให้กับชุดสืบสวนแล้ว แต่คดีก็ยังไม่คืบหน้า อีกทั้งคนร้ายยังขับรถจักรยานยนต์คันที่ขโมยไป ขับแซงตนเองไปและยังคงขับขี่ในชุมชนแบบหน้าตาเฉยโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และหลานสาวยังคงร้องไห้ถามหา กระปุกออมสินทุกวันว่าหายไปไหน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ ที่ถือว่าเป็นภัยสังคมเป็นตัวจี๊ดในชุมชน มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >