วอนช่วยเหลือครอบครัว 4 แม่ลูก หลังพ่อทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ พร้อมทิ้งหนี้สินไว้กว่า 6 แสนบาท จนต้องขายบ้านไปอยู่ที่นา ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟฟ้าใช้ สุดซ้ำแม่ประสบอุบัติเหตุไม่สามารถทำงานและยกของหักได้ ต้องให้ลูกชายวัย 16 เป็นเสาหลักของครอบครัวหาเงินมาประทังชีวิต
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นทีที่บ้านเลขที่ 61 ม.5 บ้านเสือเฒ่า ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อพบกับ นางสมควร บุญเทียนอาด อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านฯ ซึ่งพักอาศัยอยู่กับลูกชาย 3 คน คือนายอาทิตย์ บุญเทียนอาด อายุ 16 ปี,ด.ช.ศักดา บุญเทียนอาด และ ด.ช.วิรพล บุญเทียนอาด ทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน อายุ 9 ขวบ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนว่า ครอบครัว 4 แม่ลูกนี้ มีฐานะยากจน อยู่บ้านที่ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ มีเพียงหลอดไฟฟ้าพลังานแสงอาทิตย์ ที่ได้นับเป็นของขวัญปีใหม่เพียง 1 ชุดเท่านั้น
นางสมควร กล่าวว่า เดิมครอบครัวอาศัยอยู่ในหมู่บ้านโดยอยู่รวมกันกับ สามี และตนเอง รวมทั้งลูกๆรวม 5 คน แต่ด้วยสามีได้ไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาใช้จ่ายในครอบครัว และไม่มีเงินใช้หนี้ จึงตัดสินใจขายบ้านหลังเดิมที่มีอยู่ไปเพื่อปลดหนี้ ก่อนที่จะมาสร้างบ้านแบบพออยู่บนที่นาของครอบครัวที่สืบทอดกันมาซึ่งถือเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย แต่ต่อมาก็เป็นหนี้อีกเพราะสามีที่ไปทำงานมาก็ไม่ได้นำเงินมาจุนเจือครอบครัว จนต้องเอาที่นาไปจำนองในราคา 120,000 บาท ซึ่งก็คิดว่าสามีจะดีขึ้น แต่ก็มาผลาญเงินไปจนหมด ทั้งดอกเบี้ย ทั้งเงินต้นก็ไม่เคยช่วยหามาจ่าย นอกจากนี้ยังเป็นหนี้ธกส.อีก 380,000 บาท ทางธนาคารก็มาทวงถามถึงบ้าน สามีก็ไม่สนใจ ซึ่งทาง ธกส.ก็ใจดี พักชำระหนี้ให้ โดยให้หาดอกมาจ่าย แต่ก็ไม่มีเหมือนเดิม ซึ่งหากนับรวมยอดหนี้ที่มอยู่ร่วม 600,000 บาท
“รายได้ส่วนใหญ่มาจากลูกชายคนโต อายุ 16 ปี รับจ้างก่อสร้างรายวัน ก็พอได้เงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเท่านั้น ตอนนี้ส่วนที่เป็นหนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง ทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลย บ้านและที่นาที่อยู่ก็ไม่รู้จะถูกยึดตอนไหน วันๆได้แต่คิดว่าถ้าเจ้าหนี้มาทวงจะพาลูกๆหนีไปไหนหรือไปหลบนอนอยู่ที่ไหน เพราะไม่มีที่จะให้ไปแล้ว และวันนี้สามีได้ทิ้งครอบครัว ทิ้งลูกทิ้งเมียไปมีเมียใหม่ ไม่เคยมาเลี้ยงดูไม่ส่งเสียลูกแม้แต่บาทเดียว ซึ่งตนเองก็เคยไปขอความช่วยเหลือจากสามีแต่ก็ถูกด่าเป็นหมูเป็นหมา ตอนนี้ก็ต้องอยู่กัน 4 แม่ลูก ขณะที่ชาวบ้านบางคนที่มีที่นาใกล้ๆเห็นครอบครัวตนเองก็สงสาร จ้างลูกฝาแฝด 9 ขวบ ไปเฝ้านาให้ พอได้เงินไปโรงเรียน ขณะที่น้ำประปาที่้งานที่บ้านนั้นลูกฝาแฝดก้ยืมรถเข็นจากคนในหมู่บ้านเข็นน้ำจากชุมชนมาใส่ตุ่มที่บ้าน เพื่อใช้งาน บางทีชาวบ้านสงสารก็ให้เงินทีละ 20 บาท 30 บาท เพื่อประทังชีวิต”
นางสมควร กล่าวต่ออีกว่า ครอบครัวต้อง อยู่ท่ามกลางความมืดมิดมานานหลายปี ใช้เพียงเตาถ่านในการทำอาหาร แต่ปีใหม่ที่ผ่านมา แม่ของสามีได้วีดีโอคอลมาหา ก็ถามว่าทำไมถึงไม่เปิดไฟทำไมอยู่กันมืดๆ ก็ได้เล่าความจริงให้ฟัง จนแม่สามีสงสารก็ได้ซื้อไฟพลังงานแสงอาทิตย์ให้ 1 ชุด เป็นของขวัญปีใหม่ ก็พอมีแสงสว่างในยามกลางคืนบ้าง อีกทั้งตนเองนั้นประสบอุบัติเหตุเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2559 กระดูกไหปลาร้าแตก ซี่โครงแตก ไม่สามารถทำงาน ทำไร่นาหรือยกของหนักได้ อีกทั้งมีโรคประจำตัวคือโรคหอบ และเคยคิดสั้นอยากจะฆ่าตัวตาย แต่มองเห็นลูกนอนอยู่ข้างกายก็สงสารลูก เคยท้อแท้หลายครั้งกับชีวิต แต่มองเห็นลูกก็ต้องอยู่เพื่อลูก ต้องสู้เพื่อลูก ลูกเห็นแม่ท้อลูกก็มาปลอบให้กำลังใจเสมอ บอกแม่ว่าไม่ต้องท้อ ไม่ต้องร้องไห้ ตอนนี้อยู่ได้เพราะลูกทั้ง 3 คน
“เคยไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยเรื่องไฟฟ้า แต่ผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่าอยู่คนละเขต ไปถาม อบต.ก็รับปากจะดำเนินการให้ตั้งแต่ปี 2553 แต่ก็ยังไม่ได้ เวลาจะชาร์จโทรศัพท์ก็จะไปอาศัยเพื่อนบ้านแล้วออกเงินค่าไฟฟ้าช่วย ซึ่งครอบครัวอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องน้ำและไฟฟ้า อยากมีเงินใช้หนี้ จึงร้องขอผ่านสื่อมวลชนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแนะนำหรือช่วยเหลือในด้านต่างๆก็ยังดี “
