ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมความรู้ทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “Happy Money สุขเงิน สร้างได้” ล่าสุดลงนาม MOU กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่งเสริมความรู้ด้านการวางแผนการเงินการลงทุนแก่บุคลากร สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ของแต่ละองค์กรรวมกว่า 1.5 แสนคน
ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน โดยภารกิจที่ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องคือการส่งเสริมทักษะด้านการวางแผนการเงินการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงแก่ชีวิต ภายใต้โครงการ “Happy Money สุขเงิน สร้างได้” โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาเนื้อหา สื่อความรู้ และรูปแบบกิจกรรมที่จะช่วยสนับสนุนองค์กรที่เข้าร่วมโครงการให้สามารถส่งต่อความรู้แก่บุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินได้จริงและยั่งยืน
ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือกับ กฟผ. กฟภ. กฟน. และสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ในการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการเงินการลงทุนแก่บุคลากรขององค์กร และสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของแต่ละองค์กร รวมกว่า 1.5 แสนคน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเป้าหมายสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั่วประเทศ ที่จะสามารถเข้าถึงสื่อความรู้ได้กว่า 3 ล้านคนโดยมีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถบริหารจัดการการเงินและการลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ภารกิจของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีส่วนสำคัญในการดูแลความสุขของคนไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากการดำเนินงานแล้ว กฟผ. ให้ความสำคัญกับบุคลากรขององค์กรเพราะเชื่อว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด จึงให้ความใส่ใจและสนับสนุนให้บุคลากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุก ๆ ด้าน รวมถึงด้านการเงินของผู้ปฏิบัติงาน
ความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และ กฟผ. ในครั้งนี้เป็นเรื่องน่ายินดีที่ กฟผ. ได้มีพันธมิตรมาช่วยให้คำแนะนำและเดินเคียงข้างไปสู่เป้าหมายด้านการส่งเสริมความรู้ด้านการเงินและการลงทุนให้กับผู้ปฏิบัติงานที่มีอยู่กว่า 17,000 คนทั่วประเทศ โดยการให้ความรู้และจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการออมผ่านระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้เต็มสิทธิ์ และส่งเสริมเรื่องการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง สามารถบรรลุเป้าหมายการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ โดย กฟผ. ได้เดินตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านการเงินสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่ถูกต้อง และเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้จะเข้ามามีส่วนช่วยให้ กฟผ. บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า กฟภ. เป็นองค์กรสาธารณูปโภคชั้นนำของประเทศ ให้บริการพลังงานไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและร่วมสร้างสังคมอย่างยั่งยืน นอกจากความมุ่งมั่นในการให้บริการ กฟภ. เล็งเห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตพนักงานที่ปัจจุบันปัจจัยภายนอกได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการดำเนินชีวิต ไม่ใช่แค่ดูแลร่างกายเพื่อให้อยู่อย่างปลอดภัย การดูแลสุขภาพทางการเงินก็มีความจำเป็นเช่นกัน กฟภ. ได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อเป็นสวัสดิการและหลักประกันทางการเงินที่จะสามารถสร้างความมั่นคงสำหรับชีวิตในวัยเกษียณให้กับพนักงานกว่า 28,000 คน โดยสนับสนุนการดำเนินการผ่านนโยบายของคณะกรรมการกองทุน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้เรื่องการวางแผนการเงินการลงทุน ความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ กับ กฟภ. ที่จะร่วมกันเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อออนไลน์ ออฟไลน์ การบรรยายให้ความรู้ และการสร้างพี่เลี้ยงการเงิน ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่มีส่วนช่วยให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจการวางแผนการเงิน สามารถบริหารเงินออมผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้อย่างเข้าใจและบรรลุเป้าหมายในการมีเงินออมยามเกษียณที่เพียงพอให้กับตนเองได้
นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ว่าที่ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า กฟน. เป็นรัฐวิสาหกิจประเภทสาธารณูปโภคสาขาพลังงาน ดำเนินธุรกิจหลักคือการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า โดยให้ความสำคัญในการดำเนินงานควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการพัฒนาบุคลากรที่ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญในด้านการทำงาน แต่ใส่ใจในเรื่องความเป็นอยู่ด้านต่าง ๆ ของพนักงาน เพื่อให้สามารถปฎิบัติงานได้อย่างมีความสุข
กฟน. เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมความรู้และทักษะทางการเงินในระดับพื้นฐานที่จำเป็น จึงได้ลงนามความร่วมมือส่งเสริมความรู้ทางการเงินกับตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยได้ร่วมมือสร้างพี่เลี้ยงการเงินเพื่อส่งต่อความรู้ภายในองค์กร ช่วยให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจการวางแผนการใช้จ่าย บริหารหนี้สิน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือต่อจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และกฟน. มุ่งมั่นที่ขยายฐานความรู้ทางการเงินให้ครอบคลุมพนักงานกว่า 7,634 คน เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปบริหารจัดการเงินได้ผ่านองค์ความรู้และสื่อการเรียนรู้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเป้าหมายชีวิตหลังเกษียณอย่างเกษมสุข นำไปสู่การสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการออมและมีความสุขทางการเงินอย่างยั่งยืน
ดร. ธัชพล กาญจนกูล นายกสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กล่าวว่า สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นศูนย์รวมข้อมูลที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาการดำเนินงานของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้มีประสิทธิภาพ โดยมีพันธกิจหลักที่สำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากขึ้น การให้คำปรึกษาและข้อแนะนำแก่สมาชิกเกี่ยวกับการบริหารจัดการของกองทุน รวมถึงการเผยแพร่ความรู้ด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแก่สมาชิกและผู้ที่สนใจทั่วไป เพื่อรองรับการเกษียณได้อย่างเพียงพอ
สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ถูกต้องแก่สมาชิกและประชาชนทั่วไป ให้สามารถวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ โดยได้ร่วมกันพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรและผลิตสื่อ e-Learning สำหรับคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถของคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในการบริหารจัดการกองทุนที่เหมาะสม โดยเผยแพร่ผ่านระบบ SET e-Learning ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง นอกจากนี้ยังร่วมกันเผยแพร่ความรู้ออนไลน์เรื่องการออมผ่าน PVD อาทิ บทความ คลิปสั้น Infographic PVD Space อีกด้วย
ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางส่งเสริมความรู้ด้านการเงินขั้นพื้นฐาน (Financial Literacy) ด้วยการดำเนินโครงการ “Happy Money สุขเงิน สร้างได้” ต่อเนื่องมากว่าหนึ่งทศวรรษ โดยร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและเอกชนรวมแล้ว 603 แห่ง สร้างพี่เลี้ยงการเงิน 9,011 คน ครอบคลุมพนักงานในองค์กรกว่า 3 ล้านคน สำหรับองค์กรที่สนใจร่วมส่งเสริมความรู้ด้านการเงินกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.set.or.th/happymoney
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 >