เมื่อเร็วๆนี้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีรับมอบหนังสือแสดงความขอบคุณจากเครือข่ายวิทยุชุมชน ประกอบด้วย องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนแห่งประเทศไทย สมาคมสื่อช่อสะอาด สมาคมสภาวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สำนักงานสมาคมผู้ประกอบการวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย โดยมี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนจากคณะทำงานนายกรัฐมนตรี ผู้แทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนจากกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้แทนจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และกลุ่มเครือข่ายวิทยุชุมชนเข้าร่วม
จากกรณีที่เครือข่ายวิทยุชุมชน ได้เคยมีหนังสือถึงศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อขอให้พิจารณาระงับหรือชะลอการประกาศใช้พระราชกฤษฎีการ ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 มาบังคับใช้ ซึ่งเครือข่ายวิทยุชุมชนจำนวน 3,884 สถานี ทั่วประเทศ เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงให้ออกอากาศที่กำลังส่ง 500 วัตต์ ถึงวันที่ 3 เมษายน 2565 และจากนั้นให้ออกอากาศด้วยกำลังส่งต่ำเหลือเพียง 50 วัตต์ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565 จนถึงปี พ.ศ.2567 จากการลดกำลังส่งดังกล่าว ส่งผลต่อการนำข้อมูลข่าวสารภาคประชาชนออกอากาศในชุมชนต่างๆ ทำให้การสร้างการรับรู้แก่ประชาชนไม่ทั่วถึง กลุ่มเครือข่ายจึงรวมตัวกันและส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล โดยประสานผ่าน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการหารือและประสานงานกับ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย ภายหลังทาง กสทช. ได้พิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าว จึงได้ออกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม โดยให้วิทยุชุมชนผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ยังคงออกอากาศที่กำลังส่ง 500 วัตต์ ได้ต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยเครือข่ายภาคประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มเครือข่ายวิทยุชุมชน ที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของภาครัฐ เชื่อมโยงระหว่างรัฐกับประชาชนในชุมชนผ่านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ จึงได้สั่งการให้ตนเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือพี่น้องเครือข่ายที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว ตนได้ประสานงานไปยัง กสทช. เพื่อพิจารณาทบทวนการขยายระยะเวลาอนุญาตให้วิทยุชุมชนออกอากาศด้วยกำลังส่ง 500 วัตต์ ซึ่งทาง กสทช. เร่งดำเนินงานให้ทันที โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายแก่เครือข่ายวิทยุชุมชน โดยขอให้ปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นมาตรฐานภายใต้การควบคุมดูแลของ กสทช. และทำงานเพื่อสังคมและผลประโยชน์ของประเทศชาติ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง โดยคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ชี้นำสังคมในทางที่ถูกต้องและร่วมสร้างสังคมให้มีความเข้มแข็ง สามัคคี เพื่อความเป็นปึกแผ่นของคนในชาติ
นายกฯ ห่วงใยเครือข่ายวิทยุชุมชน สื่อกลางใกล้ชิดประชาชน สั่งการเดินหน้าขยายเวลาคงคลื่นความถี่ออกอากาศ 500 วัตต์ ถึงสิ้นปี 67
เรื่องที่เกี่ยวข้อง