เปิดเทอมขอนแก่นคึกคัก ผู้ปกครองแห่ใช้บริการโรงรับจำนำเนืองแน่น ขณะที่เทศบาลฯ ปรับวงเงินรับจำนำให้กับทองรูปพรรณ จากเดิม บาทละ 19,000 บาท เป็น 22,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครอง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ค.2565 ที่สถานธนานุบาลแห่งที่ 2 เทศบาลนครขอนแก่น ตรงข้าม สภ.เมืองขอนแก่น นายมนตรี สิงหปุณณภัทร รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการของโรงรับจำนำและร่วมกิจกรรมวันที่ระลึกก่อตั้งสถานธนานุบาล ด้วยการมอบถุงยังชีพให้กับผู้ที่มาใช้บริการในวันนี้ ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยทยอยกันมาขอรับบริการกันอย่างคึกคัก ซึ่งเทศบาล
ฯ ได้ปรับการจำนำทองคำสูงขึ้นจากเดิมรับจำนำบาทละ 19,000 บาท ปรับเป็น 22,000 บาท พร้อมทั้งแนะนำให้ลูกค้านำตั๋วจำนำมาเพิ่มวงเงินไปใช้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอีกด้วย
นายมนตรี สิงหปุณณภัทร รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า โรงรับจำนำของเทศบาลฯมีความพร้อมมากที่จะรองรับในสถานการณ์โควิดและสถานการณ์เปิดเทอมที่กำลังจะมาถึง โดยมีการปรับการจำนำทองคำให้สูงขึ้นจากเดิมรับจำนำบาทละ 19,000 บาท ปรับใหม่เป็น 22,000 บาท พร้อมทั้งแนะนำให้ลูกค้านำตั๋วจำนำมาเพิ่มวงเงินไปใช้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงนี้
“ในช่วงนี้ลูกค้านำสินค้ามาจำนำ ส่วนใหญ่จะเป็น ธรบัตรเก่า , เครื่องเงิน , เครื่องทองเหลือง , ผ้าไหม , และล่าสุด หมวกกันน็อค โดยโรงจำนำให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยการพิจารณารับจำนำในราคาที่พอจะบรรเทาความเดือดร้อนได้ ส่วนมาตรการต้อนรับเปิดเทอมได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. – 30 มิ.ย.2565 เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 บาท ต่อเดือน เงินต้นเกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท ต่อเดือน เงินทุนสำรองที่ทางโรงจำนำได้เตรียมไว้ประมาณ 58 ล้านบาท ที่สามารถนำมาใช้ในการรับจำนำได้ ขณะนี้ยอดคงเหลือปัจจุบันรวมจำนวน 3,400 รายการ เป็นเงิน 61,456,350 บาท ทรัพย์รับจำนำส่วนใหญ่เป็นทองคำคิดเป็นร้อยละ 90 ของจำนวนทรัพย์ทั้งหมด”
รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า การเปิดเรียนของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลฯภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ซึ่ง มีกำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ในวันที่17 พ.ค. พร้อมกันทั้ง 1 1 แห่ง โดยเทศบาลนครขอนแก่น ได้ให้โรงเรียนดำเนินการตามมาตรการของกรมอนามัย กระทรวงศึกษาธิการ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ด้วยหลักการพื้นฐานคือ ตัดความเสี่ยง เพิ่มภูมิคุ้มกัน มาตรการ 6-6-7 และให้ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข หรือพิจารณาจัดทำ School Isolation โดยคณะกรรมการสถานศึกษาหน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบตามความเหมาะสม จุดเน้นที่แตกต่าง เมื่อพบผู้ติดเชื้อในห้องเรียน ต้องทำความสะอาดห้องเรียน ตามแนวทางกระทรวง
สาธารณสุข กำหนด ทั้งยังคงงดโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อในโรงเรียน ทั้งการถอดหน้ากากกินข้าวร่วมกัน สนทนาระหว่างกันโดย ไม่สวมหน้ากาก ดังนั้น ในโรงอาหารควรมีการแยกสำรับกับข้าว แยกพื้นที่งดการพูดคุยขณะกินอาหาร และเมื่อมีการเล่นร่วมกัน ควรสวมหน้ากากตลอดเวลา แต่ถ้ามีการแพร่ระบาดในโรงเรียน ขอให้ทุกสถานศึกษาดำเนินการ ตามแผนเผชิญเหตุ เช่น หากพบผู้ติดเชื้อเข้าไปเรียนให้ปิดทำความสะอาด 3 วัน แล้วเปิดเรียนตามปกติ โดยสิ่งที่นำกังวล คือ ถ้ามีผู้ติดเชื้อมากกว่า 5 คน มีการแพร่กระจายมากกว่า 2 ห้อง ทางโรงเรียนต้องประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อเข้ามากำกับดูแล ระงับการแพร่ระบาดต่อไป ให้ถือเป็นดุลยพินิจของผู้บริหารสถานศึกษาที่จะพิจารณา เปิด – ปิดโรงเรียนต่อไป