สั่งเข้มงวด หลังพบสถานบันเทิง ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโควิดหลายพื้นที่
นายกฯ สั่งเข้มงวด หลังพบสถานบันเทิง ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโควิดหลายพื้นที่เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานจากประชาชนผ่านหลายช่องทาง เกี่ยวกับการเปิดบริการสถานบันเทิงเกินเวลาที่กำหนด ภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.อนุญาตให้เปิดบริการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด หรือสถานที่คล้ายกัน ได้ไม่เกิน 24.00 น. ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวัง 14 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าสถานบันเทิงหลายพื้นที่ ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งยังสร้างความกังวลให้กับประชาชน จึงได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครองและท้องถิ่น เพิ่มความเข้มงวด ตรวจตราสถานบันเทิงที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ย้ำให้เจ้าหน้าที่ไม่ปล่อยปละละเลยต่อการกระทำความผิด หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีละเว้น และหากพบเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม รวมถึงผู้ให้บริการเอง
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากประชาชนพบเห็นสถานบริการไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 สามารถแจ้งข้อมูลโดยตรงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนช่วยกัน เพราะแม้สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะคลี่คลายลงตามลำดับ แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรม กิจการต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคมากว่ากิจกรรมอื่นๆ