วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

สธ.เตือน “ยาลิ้นฟ้า” อันตราย เป็นยาควบคุม เสพเองอันตรายถึงชีวิต ผู้ขาย-ผู้เสพ โทษติดคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 7 แสนบาท

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือน “ยาลิ้นฟ้า” อันตราย ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ถือเป็นยาควบคุม ไม่มีขายทั่วไป เผยโทษสำหรับผู้ขายผู้เสพ ผู้โฆษณา หรือชวนผู้อื่นมาเสพ มีโทษ ติดคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 7 แสนบาท
      วันที่ 16 สิงหาคม 2565/นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีวัยรุ่นบางกลุ่มนิยมใช้ยาลิ้นฟ้า ว่า ยาลิ้นฟ้า คือยาโรฮิบนอล ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของยาในกลุ่มฟลูนิแทรซิแพม (Flunitrazepam) หรืออาจเป็นกลุ่มยาลักษณะเดียวกัน จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ถือเป็นยาควบคุม ไม่มีขายทั่วไป ต้องจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น หากสถานพยาบาลใดจ่ายยาดังกล่าวต้องทำรายงานส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยยาดังกล่าวออกฤทธิ์ในการบรรเทาอาการวิตกกังวล สงบประสาท ทำให้นอนหลับ สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ คลายกล้ามเนื้อ ต้านการชักและกดระบบการหายใจ ในทางการแพทย์จึงนิยมใช้เป็นยานอนหลับ ยานำสลบ และสงบประสาทก่อนทำการผ่าตัด
        นายแพทย์รุ่งเรืองกล่าวต่อว่า ยาดังกล่าวมีผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น นำไปมอมผู้อื่นให้หมดแรงต่อสู้ จำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพื่อก่ออาชญากรรม โดยส่วนใหญ่ใช้ผสมในเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ Flunitrazepam ออกฤทธิ์กดประสาทแรงขึ้น ขณะนี้ พบว่ามีการนำไปเสพเพื่อให้เกิดอาการมึนและอวดลิ้นที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า จึงขอเตือนว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก อาจเกิดผลข้างเคียง จนถึงแก่ชีวิตได้ เช่น หยุดหายใจ หากเสพปริมาณมาก หรือเสพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่สูงมาก ทั้งนี้ ผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยาฟลูนิแทรซิแพมและผู้ที่นำไปใช้เสพ ผู้จำหน่าย โฆษณาเชิญชวน ถือว่ามีความผิด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สำนักงาน กกพ. จับมือ 4 หน่วยงานกระชับพื้นที่ ผู้ป่วยติดเตียงต้องไม่ถูกตัดไฟ
ตัวแทนชมรมกลุ่มโรคเรื้อรัง – ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ยื่นหนังสือ กระทรวงสาธารณสุข หนุนเรียกร้อง ข้อเสนอการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อการรับรู้ข่าวสุขภาพ และโรคโควิด 19 ในกลุ่มเสี่ยง
“บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ทุกเครือข่าย” พร้อมใช้งานภายใน 8 มกราคม 2567 นี้ ยืนยันขับเคลื่อนสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 80% นำร่อง 4 จังหวัด
OR” ส่งมอบรถโมบายสโตรคยูนิตร่วมกับระบบปรึกษาทางไกลและการส่งต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน
สธ. ผนึกกำลัง รัฐ-เอกชน Kick-off หน่วยบริการในพื้นที่ เร่งเพิ่มความครอบคลุมการฉีดวัคซีน
“อนุทิน” ตรวจเข้มด่านขอนแก่นย้ำชัดทุกมาตรการความปลอดภัยชวนคนไทยฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น