คาราวานอีสานอินเลิฟปี 5 (ISAN IN LOVE) เดินทางกระตุ้นและส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวพิชิต20 จังหวัดภาคอีสาน การนำโดย คุณสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ ททท. ภูมิภาคภาคอีสาน พาคณะกราบสักการะขอพร พญานาคสีทอง วัดภูตะเภาทอง อันซีนจังหวัดอุดรธานี โดยสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำคณะคาราวานอีสานอินเลิฟปี5 เอาใจสายมู นำชมอันซีนอุดรธานี ขอพรพญานาคสีทอง โดยมีท่านเจ้าอาวาสให้ศิลให้พร และกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของวัดภูตะเภาทองแห่งนี้
สื่งที่ไม่ควรพลาดของวัดภูตะเภาทอง นั้นก็คือ พญานาคราชสีทอง ที่มีชื่อ มุจลินท์ ด้วยความเชื่อ ความศรัทธา และความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหลวงพ่อได้สร้างขึ้นตามนิมิต อีกทั้งยังมีร่องรอยของฝ่ามือแดง ที่ปรากฏให้เห็นลงบริเวณก้อนหินใหญ่ แหล่งขอโชคลาภแห่งใหม่ของเมืองอุดรธานี ที่สายมูไม่ควรพลาด
วัดภูตะเภาทอง เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตนิกาย ที่ตั้งอยู่ใน ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ภายในวัดมีพื้นที่กว่า 15 ไร่ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของวัดนั้นจะเป็นลานหิน มีก้อนหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตามากถึง 30 ลูก ว่ากันว่าบริเวณนี้น่าจะเคยเป็นทะเลมาก่อน แต่ต่อมายกตัวขึ้นกลายมาเป็นลานหินและพื้นดิน รวมถึงน่าจะมีกลุ่มคนผู้เลี้ยงสัตว์ หรือนายพราน ใช้บริเวณนี้เป็นเส้นทางการหากินอีกด้วย เพราะมีการพบรอยฝ่ามือคนข้างหินก้อนใหญ่รูปเรือสำเภาโบราณนั่นเอง
วัดป่าเมืองเหือง หรือวัดศรีบุญเรือง ตั้งอยู่ ต.ชัยพร อ.เมือง จ.บึงกาฬ สร้างขึ้นเมื่อครั้งขอมเรืองอำนาจสมัยพระเจ้าชัยวรมัน ที่ 8 ราวปี พ.ศ. 2100
ที่นี่ พระอุโบสถวัดป่าเมืองเหือง เป็นจุดที่ประชาชนศรัทธาในพญานาค มักจะมาขอพรองค์ปู่ศรีสุทโธ และองค์ย่าศรีปทุมมา ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของตัวโบสถ์ โดยรอบจะประกอบด้วยพญานาคจำนวน 12 ตน และตัวโบสถมีสีทองงดงาม
องค์พระพุทธนาคนิมิตต์ (หน้าทอง) พระพุทธรูปประจำวัดแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวนิยมมากราบสักการะ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ก้อนธาตุ เกาะกลางแม่น้ำโขง เป็นสถานที่ที่ประดิษฐ์ฐานของก้อนพระธาตุ และเป็นที่กราบไว้ พญานาคราชองค์ปูศรีสุทโธ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต บริเวณก้อนธาตุนั้น เป็นแก่นขนาดใหญ่ ที่แปลกประหลาด บนนั้นมีต้นไม้ล้อมรอบที่เล่าขานกันว่า ท่านได้พบความสงบงามในทางธรรมแห่งธรรมชาติ ซึ่งสามารถนั่งเรือเพื่อมายังเกาะได้ในช่วงฤดูร้อน
ต้อจากนั้นคาราวานอีสานอินเลิฟ ปี5 พิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน เดินทางไปเยี่ยมชมชุมชนบ้านถ้ำเต่า สกลนคร ที่นี้มีผ้าย้อมครามชื่อดังของจังหวัดสกลนครนั้น นึกถึงผ้าย้อมครามของ “บ้านถ้ำเต่า” ในพื้นที่ที่วัดสว่างภิรมย์ ตำบลสามัคคีพัฒนา อำเภออำนวยสะดวก จังหวัดสกลนคร โดยได้รับเกียรติจากคุณกานต์ กาญจนวงศ์สกุล นายอำเภออากาศอำนวย ให้การต้อนรับ และทางคณะคาราวานฯร่วมลงมือทำกิจกรรม workshop ผ้ามัดย้อมคราม อย่างสนุกสนาน
หมู่บ้านนี้ มีจุดเด่นตรงที่เป็นแหล่งปลูกต้นครามและผลิตน้ำครามมากที่สุดในประเทศ ส่งออกน้ำครามให้กับหลายจังหวัดในภาคเหนือ ที่ผลิตเสื้อม่อฮ่อม และยังทอผ้าฝ้ายเองอีกด้วย ส่งผลให้บ้านถ้ำเต่า ขายผ้าฝ้ายย้อมครามได้ในราคาย่อมเยา และได้รับการคัดสรรเป็นสินค้าระดับ 5 ดาวของโอท็อป ในจังหวัดสกลนคร
นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดตลาดผ้าย้อมคราม มีการแสดงนิทรรศการผ้าย้อมคราม สาธิตการทำตั้งแต่การทำหม้อดิน การปั่นฝ้าย การย้อม การถักทอ จนเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อการจำหน่าย หลายหลากชนิด อาทิ ผ้าซิ่น ผ้าพันคอ เสื้อผ้า ชุดสุภาพ ชุดไปรเวท ชุดแฟชั่น กระเป๋า รองเท้า ฯ
ที่มาข้อมูล/ไลน์คาราวานอีสานอินเลิฟ
