วันพุธ, 27 พฤศจิกายน 2567

นายกฯ ชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขานรับนโยบาย“อาหารไทย อาหารโลก”

ต่อยอดสินค้าอาหารฮาลาลของไทยให้เป็นที่นิยมในตลาด ขอให้เน้นคุณภาพสร้างชื่อเสียงเพื่อความเชื่อมั่นต่อไป

วันนี้ (17 ธันวาคม 2565) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดนโยบาย “อาหารไทย อาหารโลก” ซึ่งส่วนหนึ่งของการดำเนินตามนโยบายนี้คือ เห็นโอกาสและช่องทางขยายตลาดสินค้าฮาลาล (Halal) เนื่องจากประชากรในกลุ่มประเทศมุสลิม มีแนวโน้มเติบโต และมีกำลังซื้อมากขึ้น 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จากข้อมูลสถิติประชากรโลกของ Pew Research Center (Washington, DC) คาดว่ากลุ่มคนที่นับถือศาสนาอิสลามจะเพิ่มจำนวนเร็วที่สุดในโลก (https://www.pewresearch.org/religion/2017/04/05/the-changing-global-religious-landscape/pf_17-04-05_projectionsupdate_change310px/) ดังนั้น ผลิตภัณฑ์และสินค้าที่ได้รับตรารับรอง ฮาลาล ตามหลักศาสนาอิสลาม จึงมีความต้องการมากขึ้นไปด้วย ซึ่งปัจจุบัน ไทยมีการผลิตอาหารฮาลาลเพื่อจำหน่ายแก่มุสลิมภายในประเทศ รวมถึงส่งออกไปต่างประเทศ อาหารฮาลาลของไทย มีจุดแข็งด้านคุณภาพวัตถุดิบ อุตสาหกรรมอาหารของไทยยังมีความเข้มแข็ง มีชื่อเสียงในตลาดโลก ทั้งในด้านมาตรฐาน คุณภาพ และรสชาติ โดยไทยได้ส่งออกสินค้ากลุ่มอาหาร ไปยังกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation-OIC) จำนวน 57 ประเทศ ซึ่งทำให้ในปี 2564 ไทยมีมูลค่าการส่งออกอาหารฮาลาล รวม 4,188.37 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นสัดส่วน 12.13% ของมูลค่าการส่งออกอาหารทั้งหมดของไทย ขยายตัวจากปีที่ผ่านมา 4.12% ส่วนปี 2565 ช่วง 9 เดือนแรก (มกราคม – กันยายน) มีมูลค่าการส่งออก 4,681.23 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 64.65% 

โดยประเภทสินค้าอาหารฮาลาลที่ประเทศไทยส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ OIC ที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรกของปี 2564 ได้แก่ 1. ธัญพืช 2. ของปรุงแต่งจากเนื้อสัตว์ ปลา สัตว์น้ำฯ 3. น้ำตาลและขนมทำจากน้ำตาล 4. ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง สตาร์ช หรือนม ผลิตภัณฑ์อาหารจำพวกพาย และ 5. ของปรุงแต่งเบ็ดเตล็ด ที่บริโภคได้ โดยในปี 2564 ประเทศไทย ได้ส่งออกสินค้าฮาลาล ไปยังประเทศกลุ่ม OIC โดยมีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. มาเลเซีย มูลค่าส่งออก 1,193.57 ล้านเหรียญสหรัฐ 2. อินโดนีเซีย 885.77 ล้านเหรียญสหรัฐ 3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 228.64 ล้านเหรียญสหรัฐ 4. อียิปต์ 225.18 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 5. เยเมน 165.00 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากตลาดในกลุ่มประเทศ OIC ประเทศไทยยังมีโอกาสขยายตลาดไปยังประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม ได้แก่ อินเดีย จีน สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทยเอง โดยตลาดกลุ่มนี้ ก็เป็นตลาดเป้าหมายส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลที่สำคัญเนื่องจากล้วนมีกลุ่มชาวมุสลิมที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากการส่งเสริมการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลไปยังตลาดต่างประเทศแล้ว ตลาดอาหารฮาลาลในประเทศก็มีความน่าสนใจ เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยจำนวนมาก และอาหารไทยก็ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ดังนั้น สินค้าอาหารฮาลาลที่ผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศ ก็เป็นตลาดที่สำคัญ สำหรับชาวไทยมุสลิม และนักท่องเที่ยวมุสลิม เช่นเดียวกัน

“นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถทำให้ตลาดสินค้าอาหารฮาลาลของไทย เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งล้วนมีปัจจัยสำคัญจากคุณภาพสินค้า ความหลากหลายของสินค้า ทำให้เครื่องหมายฮาลาล ของไทยเป็นที่ยอมรับ ขอให้คงไว้ซึ่งชื่อเสียงเหล่านี้ เพื่อจะได้สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยขยายตลาด ผลักดันการส่งออกอาหารฮาลาลได้ ทั้งในประเทศ แก่นักท่องเที่ยว และต่างประเทศ รวมทั้งจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมอาหารของไทย” นายอนุชาฯ กล่าว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณา ติดต่อนิตยา สุวรรณสิทธิ์-0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
รีบๆเลยก่อนสิทธิ์หมด! ททท. จัดแคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง”
ททท. ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประกาศศักยภาพความพร้อมภาคเหนือ จัดงาน “เหนือพร้อม…เที่ยว” Kick off แคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง” ดีเดย์ 1 พ.ย. นี้
มาเด้อ!!ชวนนั่ง… สามล้อเรืองแสง เลาะแลงแยงเมืองหนองคาย ..
ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงาน ททท. ทั้ง 8 สนง. ในภาคอีสาน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ร่วมทำกิจกรรม CSR ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว
Seafood from Norway เดินสายสู่ขอนแก่นกับแคมเปญ “Norwegian Thai Taste วัตถุดิบอันล้ำค่า…สู่อาหารไทย 4 ภาค”
(ททท.) โดยภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือกระตุ้นการท่องเที่ยว“อีสานเขียว เที่ยวหน้าฝน ดลบันดาลใจ” นำร่องจัดกิจกรรม Nakhon Kaen Sabaidee Vientiane Networking Golf Competition 2024ณ สนามกอล์ฟสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟ คลับ จังหวัดขอนแก่น