วันเสาร์, 3 พฤษภาคม 2568

ผวจ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีปิดโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำร้อยเอ็ด

         ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้มีการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด  เป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้านบ้านโคกหนองนา  ปั้นโคก  ทำนาเพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิดการฝึกวินัยการลงมือปฏิบัติสถานที่จริงเพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อน ได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก

      วันที่ 2  ต.ค.63  ที่ศาลาเอนกประสงค์เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด   อำเภอเมือง  จังหวัดร้อยเอ็ด  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายชยันต์   ศิริมาศ  ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีปิดการฝึกอบรมโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดรุ่นที่ 2  พพร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้ารับการฝึก(ผุ้ต้องขัง)  โดยมีนายเกษมสันต์  บุญญจินดา นิลวงษ์   ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด  หัวหน้าส่วนราชการ   ทีมวิทยากร   ร่วมในพิธีปิดโครงการ 

      นายเกษมสันต์  บุญญจินดา นิลวงษ์   ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด  กล่าว่า ปัจจุบันการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดรุ่นที่ 2 นี้มีผู้เข้าฝึกอบรมเป็นผู้ต้องขังซึ่งเป็นคนไทยทั้งสิ้น 158 คนโดยปฏิบัติการฝึกอบรมเวลา 14 วันระหว่างวันที่ 18 กันยายนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ซึ่งฝึกอบรมพึ่งพาตนเองด้วยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงการแปลงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติประกอบด้วยการออกแบบแนวคิดการบริการ การบริหารจัดการพื้นที่ขนาดเล็กการประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้านบ้านโคกอุดมทำนายตามภูมิสังคมลงบนกระดาษการสร้างพื้นที่จำลองและวางแผนการปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่างเพื่อพอเพียงเพื่อพออยู่พอกินพอใช้และร่มเย็นการปฏิบัติในพื้นที่จริงมีขนาด 1 งานหรือ 412 ตารางเมตรตามทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคม  โดยมีผู้เข้าทำการฝึกอบรม  158 คน

      ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้แทนพระองค์กล่าวให้โอวาทและให้กำลังใจผู้ต้องขัง โครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง  ที่ได้ทำการฝึกอบรม สำเร็จผลอย่างน่าชื่นชมผู้สำเร็จการอบรมโครงการนี้ทุกท่านถือได้ว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะนำไปใช้ประกอบอาชีพการงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและผู้อื่นรวมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงให้แก่ชาติบ้านเมือง ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้หลังจากนี้จะผู้ต้องขังที่จะรับการลดโทษในโอกาสต่อไปจะต้องไปดำเนินการในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของตนอันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการศึกษารักษาต่อยอด

//////////////////////////

โชติกา  ทวนชัยภูมิ /ภาพ/ข่าว

0956628047