
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 กค. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจฟาร์มโคนมในเขตจังหวัดขอนแก่น หลังพบว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำนมดิบขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่บ้านโนนทอง ตำบลบ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงโคนมแห่งใหญ่ของจังหวัด ซึ่ง จากการสอบถามพบว่า สาเหตุที่น้ำนมดิบขาดตลาดในช่วงนี้เนื่องจากเกษตรกรบางส่วนเลิกเลี้ยงโคนมเพราะแบกรับต้นทุนค่าอาหารไม่ไหว

นางดวงพร เสียดไธสง อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 115 ม.15 บ้านโนนทอง ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม กล่าวว่า ราคานมคุณภาพดีจะอยู่ที่ กก.ละ 21 บาท แต่ต้องทำให้ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งตอนนี้ขายได้จริงๆอยู่ที่ กก.ละ 18 บาท เพราะสารอาหารที่นำมาเลี้ยงยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงนมที่รับซื้อ และขึ้นอยู่กับการเลี้ยง อาหารที่ให้วัวกิน ” ที่ได้กิโลกรัมละ 18 บาทเพราะที่ฟาร์มเลี้ยงอาหารไม่เพียงพอ โดยมีผลมาจากอาหารวัวแพงขึ้นทุกรายการ ซึ่งถ้าจะนำเอามาให้วัวกินให้ครบทุกชนิดตามมาตรฐานที่กำหนด ยิ่งจะทำให้ติดลบไปมากกว่านี้เพราะตลอดระยะเวลา2-3 ปีที่ผ่านมา การขายน้ำนมวัวที่ได้มาไม่เพียงพอกับค่าอาหารที่จะนำมาให้วัวกิน”

นางดวงพร กล่าวต่ออีกว่า จาก 1-2 ปีที่แล้วอาหารจากกระสอบละ 260 บาท ปีนี้เป็น 360 บาท ถั่วเหลืองจากกระสอบละ 900-1,000 บาท ปีนี้กระสอบละ 1,6000 บาท ยังไม่นับรวมอาหารสัตว์ต่างๆที่ขึ้นทุกตัว ซึ่งที่ฟาร์มมีวัว 50 ตัว ปัจจุบัน กินอาหารอยู่ที่ 60 กระสอบต่อ 15 วัน เฉพาะอาหารหลักข้าวโพดหมกอยู่ที่ 120 บาทกระสอบต่อ 15 วัน ขณะที่ถั่วเหลืองลดลงเหลือ 5 กระสอบเพราะว่าราคาสูงขึ้น
ซึ่ง ค่าอาหารแต่ก่อน 42,000 บาทต่อ 15 วัน ปัจจุบันค่าอาหารอยู่ที่ 55,000-57,000 บาทต่อ 15 วัน และ ถ้าราคาน้ำนมดิบที่ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 22-23 บาท ไม่ต้องมาหักอะไรแบบนี้ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรรอดแน่นอน ทั้งที่ใจจริงอยากให้ได้ราคาที่ 25 บาท

“ฟาร์มที่อยู่รอดต้องเป็นฟาร์มใหญ่มีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรอจังหวะที่รัฐบาลจะมีนโยบายออกมาช่วยเหลือหรือว่ารออาหารลดราคาลง ขณะที่ สาเหตุหลักๆที่เกษตรเลิกเลี้ยงจริงๆคือค่าอาหารแพงทำแล้วไม่เหลืออะไร ซึ่งที่ฟาร์มทำขาดทุนมาแล้ว 3 ปี แต่ยังอยู่ได้เพราะ ยืม กู้ สหกรณ์เป็นหลัก รวมทั้งหารายได้อื่นๆเข้ามาบ้างอย่างเช่น ขายขี้วัว ขายตัวแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์ แปรสภาพมาเป็นเงินเลี้ยงดูฟาร์ม”

นางดวงพร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เคยคิดว่าจะเลิกเลี้ยงเหมือนกันแต่สอบถามราคาวัวตัวแล้วราคาตกมากจากราคา 30,000 กว่าบาท เหลือเพียงตัวละ 15,000-20,000 บาท ถ้าจะขายยกคอกตั้งราคาไว้ที่ 1,500,000 บาท เพื่อที่จะใช้หนี้สหกรณ์ให้หมด ถ้าเป็นราคาปีที่แล้วได้ราคานี้แน่นอน แต่จากการสอบถามราคาตอนนี้ไม่ถึง 600,000 บาท ราคาตกอย่างมาก ซึ่งก็รู้สึกท้อมากอยากยกคอกขายแต่ก็ไม่ได้ราคาและไม่พอใช้หนี้สหกรณ์ต้องกัดฟันต่อไปเพื่อได้รัฐบาลใหม่และอะไรจะดีขึ้น อย่างไรก็ตามอยากให้ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารให้ช่วยดูเกษตรกรมากขึ้น ช่วยเหลือเรื่องค่าอาหารสัตว์ควบคุมราคาและขอราคาน้ำนมดิบเพิ่มเพื่อจะให้เกษตรกรอยู่ได้








