วันศุกร์, 11 เมษายน 2568

“สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนกรกฎาคม 2566”

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในการประชุมรอบล่าสุดนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปลดลงต่อเนื่องไปแตะที่ระดับ 3% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยจะอยู่ในระดับสูงแต่มีแนวโน้มลดลง โดยอัตราว่างงานที่ยังไม่ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญส่งผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อีกทั้งเศรษฐกิจจีนหลังการเปิดประเทศขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์มาก หากพิจารณาจากตัวเลขภาคการผลิต และส่งออกของจีนในช่วงที่ผ่านมาหดตัว  ทำให้ธนาคารกลางจีนต้องลดดอกเบี้ยนโยบายลง รวมถึงทางการจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นฟื้นฟูและเพิ่มการบริโภคในภาคยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการ ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อบริษัทจดทะเบียนไทยในอนาคต

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2566 ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) รายงานว่าภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกฟื้นตัวจากการระบาดของ COVID-19 ในอัตราที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มขยายตัวลดลงมาที่ 4.6% ในปีนี้ และ 4.9% ในปีหน้า ทั้งนี้ ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยไปที่ 3.5% จากที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.3% ในเดือนเมษายน และหากพิจารณาจากอัตราส่วน Forward PE ของ SET Index ค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้ผู้ลงทุนบุคคลและสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 6 เดือนต่อเนื่อง

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

  • ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 SET Index ปิดที่ 1,556.06 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.5% จากเดือนก่อนหน้า และปรับลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า

·        ในเดือนกรกฎาคม 2566 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี และ กลุ่มการเงิน

·        ในเดือนกรกฎาคม 2566 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 46,002 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 25.3% โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน 7 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 56,873 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ 6 โดยในเดือนกรกฎาคม 2566 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 12,558 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ในส่วนของผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศแม้ว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลดลงจากช่วงต้นปี แต่จำนวน Active accounts ในช่วงหลัง COVID-19 Pandemic เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อน COVID-19 Pandemic

  • ในเดือนกรกฎาคม 2566 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป (PHG)
  • Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 17.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.3 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 21.3 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า
  • อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 3.12% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.20%
MAaG61.jpeg

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

  • ในเดือนกรกฎาคม 2566 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 474,850 สัญญา ลดลง 22.0% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures และในช่วง 7  เดือนแรกของปี 2566 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 546,687 สัญญา ลดลง 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures

“SET…Make it Work for Everyone”

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797
MAaG61.jpeg MB9x2v.jpeg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ MEnXPR.gif


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
นิโอ ทาร์เก็ต และอินฟลูเอ็นเชี่ยลแบรนด์ สิงค์โปร์ จัดงานมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ปี 2024
พูดถึงกล้วยหอมทอง ทำไมต้องที่ “โก โฮลเซลล์” ผลผลิตสดใหม่จากเสิงสาง ใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติดี มีมาตรฐาน GAP
ญาญ่า อุรัสยา เคียงข้างพรอมิสมาอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวแคมเปญใหม่ สมัครกู้เงินได้สะดวกและง่ายขึ้นผ่านแอป
ทราเวลโลก้าเผย กรุงเทพฯ ยังครองแชมป์ ชุมพรติดโผจุดหมายฮิตสงกรานต์ 2568
คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ จับมือ PMCU ร่วมจัดหลักสูตรพัฒนาผู้จัดการสินทรัพย์และ นักพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ พลิกโฉมพื้นที่สถานีรถไฟ
สสว. เสริมแกร่ง SME ผนึกกำลัง 30 หน่วยงาน จัดงาน “ปลดล็อกความสำเร็จ SME สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” มุ่งยกระดับศักยภาพแบบพลวัต