วันศุกร์, 11 เมษายน 2568

ไทยเวียตเจ็ทเน้นย้ำเสถียรภาพด้านปฏิบัติการ พร้อมเดินหน้าสยายปีกอย่างมั่นคง

สายการบินไทยเวียตเจ็ทสยายปีกมุ่งหน้าสู่ครึ่งหลังของปี 2566 อย่างมั่นคง เผยผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2566 เดินหน้าเสริมสร้างเสถียรภาพในการปฏิบัติการ มุ่งปรับปรุงอัตราตรงต่อเวลา (OTP) ยกระดับคุณภาพบริการ และขยายเครือข่ายเส้นทางบิน มอบตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลายและเปี่ยมคุณภาพแก่ผู้โดยสาร พร้อมเผยอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 103.63 และจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

เสริมสร้างเสถียรภาพด้านปฏิบัติการ เดินหน้าสยายปีกอย่างมั่นคง:

ตลอดครึ่งแรกของปี 2566 กล่าวได้ว่าสายการบินไทยเวียตเจ็ทประสบความสำเร็จในการเสริมสร้างเสถียรภาพด้านปฏิบัติการบินและการดำเนินงาน

เมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการทั่วโลกเริ่มฟื้นฟูกลับสู่ระดับเดียวกันกับช่วงก่อนการระบาดของโรคไวรัส และกลับสู่สภาพตลาดปกติ สายการบินและสนามบินหลายแห่งประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานเนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางที่ยาวนานและเข้มงวดในช่วงยุคโรคระบาด ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานลดลงและสร้างประสบการณ์การเดินทางด้านลบแก่ผู้โดยสาร เพื่อแก้ปัญหานี้และเพื่อเสริมความเสถียรในการดำเนินงาน ไทยเวียตเจ็ทได้พยายามอย่างมากในการปรับปรุงการให้บริการเพื่อเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการการให้บริการภาคพื้นดินด้วยตนเอง

ผลจากความสามารถในการเสริมสร้างความมั่นคงในการดำเนินงาน ไทยเวียตเจ็ทประสบความสำเร็จในการรักษาอัตราการตรงต่อเวลา (OTP) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุดสำหรับการปฏิบัติการบินที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมการบิน ในไตรมาสที่ 2/2566 อัตราการตรงต่อเวลาของไทยเวียตเจ็ทอยู่ที่ร้อยละ 82 ในขณะที่ อัตราการตรงต่อเวลาเฉลี่ยของไตรมาสที่ 4/2565 และไตรมาสที่ 1/2566 อยู่ที่ร้อยละ 59 และร้อยละ 68 ตามลำดับ ในแง่ของอัตราความน่าเชื่อถือทางเทคนิค ไทยเวียตเจ็ทยังคงรักษาอยู่ที่ร้อยละ 99.68 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เป็นบวกอย่างมากในอุตสาหกรรมการบิน

ด้วยความสำเร็จในการเสริมสร้างเสถียรภาพในการปฏิบัติการและการดำเนินงาน รวมทั้งความมั่นคงด้านการดำเนินธุรกิจ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ไทยเวียตเจ็ทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของจำนวนผู้โดยสาร โดยมีจำนวนผู้โดยสารรวม 3.04 ล้านคน คิดเป็นอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 10.12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ มีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารที่ร้อยละ 884 โดยมีผู้โดยสารบนเส้นทางระหว่างประเทศมากกว่า 729,000 คนในช่วงครึ่งแรกของปี ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 ไทยเวียตเจ็ทมีจำนวนผู้โดยสารสะสมถึง 21.54 ล้านคน นับตั้งแต่การให้บริการเที่ยวบินแรกในปี 2559

ไทยเวียตเจ็ทยังได้ขยายขีดความสามารถในการดำเนินงานอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ด้วยจำนวนเครื่องบินทั้งหมด 18 ลำในฝูงบิน A320 และ A321 ในครึ่งแรกของปี 2566 สายการบินฯ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเฉลี่ย 547 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศเฉลี่ย 190 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยมีอัตราบรรทุกของเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศอยู่ที่ร้อยละ 85 และร้อยละ 77 ตามลำดับ ทำให้สายการบินยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศเป็นอันดับสองไว้ได้

นอกจากนี้ ไทยเวียตเจ็ทยังได้ร่วมมือกับเวียตเจ็ท กรุ๊ป ในฐานะผู้ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและเวียดนามอันดับต้น ๆ โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา ไทยเวียตเจ็ทและเวียตเจ็ทกรุ๊ปให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและเวียดนามมากกว่า 4,200 เที่ยวบิน ให้บริการผู้โดยสารกว่า 683,000 คนในเครือข่ายเที่ยวบินที่กว้างขวางระหว่างทั้งสองประเทศ ได้แก่ เที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ สู่ โฮจิมินห์ซิตี้ ดานัง ฟู้โกว๊ก และฮานอย เที่ยวบินระหว่าง ภูเก็ต สู่ ฮานอย และ โฮจิมินห์ซิตี้ และเที่ยวบินจากเชียงใหม่ สู่ โฮจิมินห์ซิตี้ โดยจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 446.36 ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,332.37 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ในแง่ของรายได้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ไทยเวียตเจ็ทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 103.63 เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2565 โดยรายได้รวมแบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายตั๋วโดยสารร้อยละ 73.20 และรายได้จากบริการเสริมและบริการบนเครื่องบินมีร้อยละ 26.72

มุ่งปรับปรุงบริการ ยกระดับประสบการณ์ตลอดการเดินทาง:

ด้วยการมุ่งเน้นที่กลยุทธ์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไทยเวียตเจ็ทให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและยกระดับคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน

ไทยเวียตเจ็ทได้เปิดใช้งานช่องทางการติดต่อที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าสามารถรับบริการจากสายการบินฯ ได้โดยตรง รวมถึง ‘Amy Chatbot’ – แชทบ็อตปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถจำลองการสนทนาทันทีกับผู้โดยสารทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้โดยสารสามารถสนทนากับ Amy Chatbot เพื่อจัดการการจองหรือสอบถามข้อมูลการเดินทางที่จำเป็นได้อย่างสะดวก ด้วย Amy Chatbot ไทยเวียตเจ็ทประสบความสำเร็จในยกระดับอัตราความพึงพอใจของลูกค้า โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 อัตราความพึงพอใจของลูกค้าอยู่ที่ร้อยละ 90.0 เทียบกับร้อยละ 83.0 ในช่วงเดียวกันของปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.43 ในขณะที่อัตราการใช้บริการของ Amy Chatbot ที่ประสบความสำเร็จในครึ่งแรกของปี 2566 และครึ่งแรกของปี 2565 อยู่ที่ร้อยละ 87.6 และร้อยละ 78.6  ตามลำดับ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.54 ภายในสิ้นปี 2566 สายการบินมีเป้าหมายที่จะยกระดับอัตราความพึงพอใจของลูกค้าและอัตราการใช้บริการที่ประสบความสำเร็จของ Amy Chatbot เป็นร้อยละ 95.0 และร้อยละ 90.0 ตามลำดับ

นอกจากนี้ ในด้านศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) ไทยเวียตเจ็ทยังประสบความสำเร็จในการลดเวลารอสายโดยเฉลี่ยเหลือ 48 วินาที (ณ เดือนมิถุนายน 2566) เทียบกับ 160 วินาทีในเดือนมิถุนายน 2565 ในขณะที่อัตราการโทรสำเร็จเฉลี่ยของเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ร้อยละ 95.32 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.01 ด้วยอัตราการโทรที่สำเร็จสูงนี้ สายการบินมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.70 จากการทำธุรกรรมผ่านศูนย์บริการลูกค้า

ในช่วงต้นปี 2566 สายการบินยังเปิดตัวบริการห้องรับรองพิเศษที่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วย ‘Coral Executive Lounge’ ซึ่งให้บริการโดย Coral Thailand มอบประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับแก่ผู้โดยสาร ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารชั้นสกายบอส (SkyBoss) ของไทยเวียตเจ็ทจะได้รับสิทธิเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษนี้โดยอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารชั้นประหยัด (Eco) และ ดีลักซ์ (Deluxe) สามารถเพลิดเพลินกับบริการห้องรับรองได้ในราคาที่คุ้มค่า โดยเพิ่มบริการรับรองพิเศษในหมายเลขการจองขณะทำการจองบัตรโดยสาร บริการห้องรับรองมีบทบาทอย่างมากในการปรับปรุงคุณภาพบริการโดยรวมและประสบการณ์ของลูกค้า ตอกย้ำไทยเวียตเจ็ท ในฐานะ ‘สายการบินที่ให้บริการด้วยความเป็นเลิศในราคาที่เข้าถึงได้’

เชื่อมต่อเครือข่ายและบริการ มอบตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย:

ไทยเวียตเจ็ทกำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยการกระจายการเชื่อมต่อเครือข่ายเส้นทางบินและบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

หลังจากประสบความสำเร็จในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินในปี 2565 ด้วยการเปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่รวม 5 เส้นทางบิน ได้แก่ เส้นทางบินจากจากกรุงเทพฯ ไปยังสิงคโปร์ ฟูกุโอกะ ไทเป พนมเปญ และฟู้โกว๊ก ตลอดจนการกลับมาให้บริการกรุงเทพฯ – ดานังอีกครั้ง สายการบินไทยเวียตเจ็ทตอกย้ำความสำเร็จในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินอีกครั้ง ด้วยการให้บริการเที่ยวบินระหว่างเชียงใหม่และโอซาก้า จำนวน 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา โดยเส้นทางใหม่นี้ยังคงเป็นบริการเที่ยวบินพาณิชย์แบบประจำมีกำหนดที่เชื่อมต่อเชียงใหม่และญี่ปุ่นเพียงเส้นทางเดียวในปัจจุบัน

เพื่อนำเสนอการเชื่อมต่อเที่ยวบินที่หลากหลายแก่ผู้โดยสาร ไทยเวียตเจ็ทเปิดตัวบริการเช็คทรู ‘ สกาย คอนเน็ค (Sky ConX)’ ซึ่งนำเสนอการเชื่อมต่อที่หลากหลายอย่างราบรื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านฐานปฏิบัติการบิน ณ สุวรรณภูมิ ด้วยบริการ สกาย คอนเน็ค ผู้โดยสารสามารถเช็คอินเพียงครั้งเดียวที่อาคารผู้โดยสารขาออกแห่งแรก จากนั้นสามารถรับสัมภาระของตนที่ปลายทางได้อย่างสะดวกสบาย ปัจจุบัน Sky ConX โดยสารการบินให้บริการเที่ยวบินเชื่อมต่อภูเก็ต กระบี่ และเชียงใหม่ไปยัง ฟูกุโอกะ ไทเป สิงคโปร์ และดานัง ทั้งยังมีเที่ยวบินเชื่อมต่อภายในประเทศระหว่างจุดหมายปลายทางหลัก ๆ  ในประเทศไทยอีกหลายเส้นทาง

นอกจากนี้ ไทยเวียตเจ็ทยังร่วมมือกับ เวียตเจ็ท กรุ๊ป ในการให้บริการเที่ยวบินเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ ไปยังจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลี และออสเตรเลีย ผ่านฐานปฏิบัติการบินของเวียตเจ็ทในเวียดนาม โดย เวียตเจ็ท กรุ๊ป กำลังขยายเครือข่ายเส้นทางบินไปสู่ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างรวดเร็ว

นอกจาก สกาย คอนเน็ค แล้ว ไทยเวียตเจ็ทยังได้เปิดใช้งานเครือข่ายอินเตอร์ไลน์ (Virtual Interline) โดยร่วมเป็นพันธมิตรสายการบินต่าง ๆ บนระบบเครือข่ายอินเตอร์ไลน์ของ Dohop ซึ่งให้บริการเที่ยวบินที่ครอบคลุมไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ออสเตรเลีย เกาหลี นอร์เวย์ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ไทยเวียตเจ็ทยังให้บริการเช่าเหมาลำและได้ขยายเครือข่ายเช่าเหมาลำอย่างรวดเร็ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไทยเวียตเจ็ทประสบความสำเร็จในการให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำไปยังหลากหลายจุดหมายปลายทาง อาทิ โอกินาว่า ย่างกุ้ง อูลานบาตอร์ และอีกหลากหลายปลายทางในจีน โดยร่วมมือกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวและคู่ค้าต่าง ๆ

ในแง่การขยายฝูงบิน ไทยเวียตเจ็ทมีแผนเพิ่มเครื่องบินอีก 2 ลำเข้าสู่ฝูงบินภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับการขยายเครือข่ายเส้นทางบิน โดยจะทำให้ไทยเวียตเจ็ทมีจำนวนเครื่องบินในฝูงบินทั้งสิ้น 20 ลำด้วยกัน

ไทยเวียตเจ็ทในฐานะผู้นำฟื้นฟูการท่องเที่ยว:

กล่าวได้ว่าไทยเวียตเจ็ทอยู่ในตำแหน่งผู้นำที่มีส่วนสนับสนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยนับตั้งแต่การเปิดน่านฟ้าระหว่างประเทศในปี 2565 ที่ผ่านมา สายการบินฯ ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทั้งในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศอย่างเต็มที่ รวมทั้งจัดตั้งพันธมิตรต่างๆ กับโรงแรม ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และองค์กรด้านการท่องเที่ยว หนึ่งในความร่วมมือเหล่านี้คือความร่วมมือกับ สกายฟัน ทราเวล (Skyfun Travel) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเดินทางออนไลน์ที่ปฏิวัติวงการ เพื่อนำเสนอแพ็คเกจการเดินทางที่คุ้มค่าแก่ลูกค้าด้วยบริการและผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากทั้งไทยเวียตเจ็ทเอง และพันธมิตรท่องเที่ยวอื่น ๆ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออกให้กลับมาฟื้นตัวและคึกคักอีกครั้งโดยเร็ว

สานต่อกิจกรรม คืนกำไรสู่ชุมชน:

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไทยเวียตเจ็ทได้เปิดตัวแคมเปญต่างๆ ภายใต้กอง ‘Fly Green Fund’ เพื่ออุทิศแด่สังคมและชุมชน กองทุนฟลายกรีนก่อตั้งขึ้นในปี 2564 โดยความร่วมมือกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร โดยมีภารกิจหลักในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดำเนินการโดยมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เพื่อปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ในประเทศไทย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สายการบินได้นำเสนอแคมเปญต่าง ๆ มากมาย รวมถึง กิจกรรม ‘การ์เบจ ฮันเตอร์ (Garbage Hunter)’ ซึ่งสายการบินฯ ได้จัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครเพื่อกำจัดขยะจากสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย และกิจกรรม ‘เมโทร ฟอร์เรส (Metro Forest)’ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวใน เขตเมืองของประเทศไทย

ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศ ไทยเวียตเจ็ทได้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืนของการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การลดมลพิษจากการปฏิบัติงานประจำวัน และการดำเนินมาตรการปกป้องสิ่งแวดล้อมมากมาย เพื่อลดต้นตอของปัญหาโลกร้อนที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่

กางปีกเตรียมพร้อม มุ่งสู่ครึ่งปีหลัง:

ในครึ่งหลังของปี 2566 บริการดิจิทัลและการปรับปรุงบริการเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลุกค้ายังคงเป็นจุดที่ไทยเวียตเจ็ทให้ความสำคัญมากที่สุด นอกจากนี้ สายการบินฯ ยังจะมุ่งเน้นการขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ ซึ่งสายการบินฯ ได้ศึกษาถึงโอกาสในการให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มอบโอกาสการเดินทางที่มากขึ้นแก่ผู้โดยสารตามปณิธานตั้งต้นของสายการบินฯ

ทั้งนี้ ภายในสิ้นปี 2566 ไทยเวียตเจ็ทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตร้อยละ 72 จำนวนผู้โดยสารเติบโตร้อยละ 9% และรักษาส่วนแบ่งอันดับ 2 ในตลาดประเทศไทย โดยคาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 6.31 ล้านคนภายในสิ้นปี 2566

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 MAaG61.jpeg MB9x2v.jpeg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ MEnXPR.gif


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
นิโอ ทาร์เก็ต และอินฟลูเอ็นเชี่ยลแบรนด์ สิงค์โปร์ จัดงานมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ปี 2024
พูดถึงกล้วยหอมทอง ทำไมต้องที่ “โก โฮลเซลล์” ผลผลิตสดใหม่จากเสิงสาง ใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติดี มีมาตรฐาน GAP
ญาญ่า อุรัสยา เคียงข้างพรอมิสมาอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวแคมเปญใหม่ สมัครกู้เงินได้สะดวกและง่ายขึ้นผ่านแอป
ทราเวลโลก้าเผย กรุงเทพฯ ยังครองแชมป์ ชุมพรติดโผจุดหมายฮิตสงกรานต์ 2568
คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ จับมือ PMCU ร่วมจัดหลักสูตรพัฒนาผู้จัดการสินทรัพย์และ นักพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ พลิกโฉมพื้นที่สถานีรถไฟ
สสว. เสริมแกร่ง SME ผนึกกำลัง 30 หน่วยงาน จัดงาน “ปลดล็อกความสำเร็จ SME สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” มุ่งยกระดับศักยภาพแบบพลวัต