ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานข่าวว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดบ้านพิบูลธรรม พร้อมเปิดนโยบายพลังงาน “มั่นคง เป็นธรรม ยั่งยืน” โดยประกาศแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเฉพาะแผนระยะสั้นจะทำให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด โดยจะมีการปรับราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า ซึ่งในส่วนของไฟฟ้าได้มีการประกาศค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 3.99 บาทต่อหน่วย ส่วนการปรับลดราคาน้ำมัน ได้เริ่มแล้วโดยลดราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และกำลังจะเริ่มลดราคาน้ำมันเบนซิน เพื่อผู้ใช้น้ำมันทุกคนให้มีความเป็นธรรม โดยเริ่มที่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ก่อน โดยจะปรับลดราคาลง 2.50 บาทต่อลิตร จากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ตาม จะเป็นตัวเลขนี้หรือไม่จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน และจะมีการนำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีภายใน 2 สัปดาห์ เบื้องต้นจะลดราคาถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2566 ก่อน หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาว่าจะมีนโยบายอย่างไรต่อไป และจะมีการพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือให้กลุ่มเกษตรกรได้ใช้น้ำมันราคาถูก เหมือนกับกลุ่มชาวประมง ที่มีน้ำมันเขียว ซึ่งในส่วนนี้จะเร่งดำเนินการออกกฎหมายมารองรับ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายมารองรับ ประกาศใช้เป็นครั้งๆ ไป เมื่อมีปัญหาก็ต้องมาพิจารณาเป็นรายครั้ง แต่ตนต้องการให้ทั้งสองกลุ่มนี้ได้ใช้น้ำมันในราคาถูก ซึ่งกฎหมายที่จะออกมารองรับสองกลุ่มนี้ คาดว่าจะดำเนินการได้ก่อนสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ การประกาศใช้น้ำมันตามมาตรฐานยุโรประดับ 5 (ยูโร 5) ซึ่งเดิมจะเริ่ม 1 มกราคม 2567 จะมีการดูว่าจะยังเป็นไปตามนั้นหรือไม่ หากประกาศใช้แล้วทำให้ต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น 15 สตางค์ต่อหน่วย ก็จะไม่ดำเนินการต่อ แม้ว่าโรงกลั่นจะมีการลงทุนไปแล้ว ก็ไม่เกี่ยวกัน หรือหากหน่วยงานอื่นที่มากดดันให้เร่งใช้ยูโร 5 ก็ต้องมาร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ทำให้น้ำมันราคาสูงขึ้น
ส่วนระยะกลาง จะต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น รองรับนโยบายพลังงานที่มั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืน โดยจะต้องไปดูโครงสร้างราคาพลังงานทั้งหมดว่าแต่ละประเภทประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าในส่วนของโครงสร้างราคาน้ำมัน ปัญหาอยู่ที่ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นเมื่อมาถึงราคาขายปลีก มีการจัดเก็บภาษีหลายประเภท และเงินส่งเข้ากองทุนต่างๆ จำนวนมาก และยังมีค่าการกลั่น ค่าการตลาด และค่าขนส่งน้ำมันอีก แต่การจะทำให้เร็วได้จะต้องเริ่มที่ภาครัฐก่อน โดยไปดูว่าในส่วนของภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะปรับลดตรงไหนได้บ้าง หลังจากนั้นจะไปดูต้นทางน้ำมันจนถึงปลายทางของผู้ประกอบการ ว่าบวกกำไรเกินควรหรือไม่ ซึ่งการขอข้อมูลจากภาคเอกชนยังมีปัญหา เพราะเป็นความลับทางการค้า จึงต้องเร่งออกกฎหมายให้ดำเนินการในส่วนนี้ได้
และระยะยาว จะปรับโครงสร้างการบริหารกระทรวงพลังงาน กระทรวงพลังงานมีบุคลากรที่ได้ มีความสามารถที่จะเดินหน้าตามนโยบายได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการออกกฎเกณฑ์ กติการ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานได้อย่างเป็นธรรม ภาครัฐจะต้องปรับกติกาแก้ปัญหาอุปสรรคทั้งหมดที่ติดขัดในการเข้าถึงพลังงาน และจะมีการเข้าไปตรวจโครงการที่เกิดขึ้นในรัฐบาลก่อนๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
ทิศทางของกระทรวงพลังงานจะเปลี่ยนไป จะทำให้ความรู้สึกของประชาชนต่อกระทรวงพลังงานจะเปลี่ยนไป เพราะกระทรวงพลังงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของประชาชน จึงอยากเห็นกระทรวงพลังงานเข้าถึงคนได้มากขึ้น และจะสร้างให้เป็นกระทรวงที่มีความยั่งยืนในการดูแลภารกิจนี้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เข้ามา มีเทคโนโลยี มีพลังงานทดแทน ก็จะมีการส่งเสริมให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาพลังงานหลักอย่างเดียว” นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า
ส่วนการแต่งตั้งผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถือว่าถูกตีตกไปตั้งแต่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่อนุมัติแล้ว จึงต้องให้คณะกรรมการ กฟผ. ทำเรื่องยืนยันเข้าอีกครั้งว่าจะเป็นใคร กระทรวงจึงจะทำเรื่องเสนอเข้าพิจารณา ครม.อีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้กระทรวงพลังงานเป็นผู้ส่งเรื่องเข้า ครม.เท่านั้น
ส่วนเรื่องที่กลัวว่าปรับลดราคาพลังงานไปแล้ว แล้วมีปัจจัยอื่น เช่น สงครามมาทำให้ราคาพลังงานในตลาดโลกสูงขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับราคาพลังงานในประเทศไทย เพราะราคาพลังงานของไทยมีโครงสร้างที่ซับซ้อม และมีองค์ประกอบหลายอย่าง ส่วนที่ต้องไปดูคือต้นทุนการผลิตมากกว่า หากสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ ก็จะทำให้ราคาพลังงานถูกลง
ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ
