วันพุธ, 27 พฤศจิกายน 2567

สรรพสามิตเข้ม!! จับบุหรี่เถื่อนกว่า 7 หมื่นซอง พร้อมลุยปราบปรามบุหรี่เถื่อนเชิงรุกทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ภายใต้การอำนวยการของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามและจับกุมขบวนการจับกุมผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะการปราบปรามบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบมาตามแนวชายแดนและส่งขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งกรมฯ ได้ยกระดับการทำงานเชิงรุกด้วยการเปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ และนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงานตามยุทธศาสตร์ EASE Excise ในการยกระดับการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้เสียภาษี รวมถึงบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานภายนอกมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องเอกซเรย์ช่วยในการตรวจสอบ ณ ศูนย์คัดแยกกระจายสินค้าเอกชน เพื่อตรวจสอบรถขนส่งสินค้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยงและเป็นการตัดตอนเส้นทางการส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ ภาคเหนือที่ จ.นครสวรรค์, ภาคใต้ที่ จ.สงขลา และ จ.ชุมพร และภาคตะวันออกที่ จ.ชลบุรี และ จ.ปราจีนบุรี

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการลดการขยายตัวของพื้นที่ค้าบุหรี่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในพื้นที่เสี่ยง กรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต โดยการระดมเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบปราบปรามตามพื้นที่เป้าหมาย รวมถึง การลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์คัดแยกกระจายสินค้าทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการกระจายบุหรี่เถื่อนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดจนการป้องกันและปราบปรามโดยการจับผู้ค้ารายใหญ่

ผลจากการปฏิบัติการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ฝ่ายปราบปราม สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่สรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ชุมพร ทำให้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สามารถจับบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบขนจากแนวชายแดนภาคตะวันออกส่งผ่านศูนย์กระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ จำนวน 67,960 ซอง มีมูลค่าประมาณการค่าปรับ 64,018,320 บาท

ขณะเดียวกันจากการขยายผลการจับกุมรถตู้ขนบุหรี่เถื่อนที่ประสบอุบัติเหตุชนรถกระบะ ที่ อ.กงหรา จ.พัทลุง ในวันเดียวกันนี้เอง (13 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่สรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 ร่วมกับสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา สาขาหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 12 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งถูกใช้เป็นโกดังเก็บและจำหน่ายบุหรี่เถื่อนผ่านทางออนไลน์ส่งขายทั่วประเทศรายใหญ่

ผลการจับกุมพบผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ของกลางบุหรี่เถื่อนอยู่ภายในรถยนต์นั่ง และภายในบ้าน ประมาณรวม 9,450 ซอง ประมาณการมูลค่า 850,000 บาท โดยคิดเป็นประมาณการค่าภาษี 600,000 บาท ประมาณการค่าปรับ 8,900,000 บาท

ดร.นิตยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการปราบปรามและจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนในครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการเชิงรุกของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามและจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อน และผู้กระทำความผิดตาม พรบ.ภาษีสรรพสามิต 2560 อย่างเคร่งครัด และได้มีการทำงานในรูปแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายสรรพสามิต ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ที่เป็นกลุ่มกระบวนการรายใหญ่ และการซื้อขายสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ซึ่งเป็นที่นิยมและแพร่หลายในปัจจุบัน

ซึ่งสินค้าเหล่านี้หากเล็ดลอดไปได้จะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของความชอบธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต รวมถึงการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทยจากการได้รับสินค้าปลอมแปลงที่อาจเกิดปัญหาหรือส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งกรมสรรพสามิตได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ตามยุทธศาสตร์ของกรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยภาษีสรรพสามิต มุ่งเน้น สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล สร้างมาตรฐานสากล เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน

ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศหรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_ hotline@excise.go.th

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 7003315842a3e5554.jpeg < tz01.jpeg 2_07b2fa84021c11013.jpeg sm02.jpeg banner1-08.gif Dp1Qd0.png green-white-background06.jpeg 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg cropped-kk0012-scaled-3.jpeg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ radio20766.gif