(มีคลิป)ชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนบุก กสทช.ยื่นหนังสือร้องขอการพิสูจน์ทราบ เกี่ยวกับ ความถี่หาย ติดดอกจันทร์และขอวิวอนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)เร่งรัดนำขอให้เร่งรัดการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเข้าสู่สภาโดยด่วน
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00น. ณ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ถนนพหลโยธิน ซอย 8 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนกว่า 300 สถานีทั่วประเทศนำโดย นายวรพจน์ ลัภโต ประธานชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน นำเข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช.ในการพิสูจน์ทราบ เกี่ยวกับ ความถี่หาย ติดดอกจันทร์(ติดเงื่อนไขเพิ่มเติม) ต่อตัวแทน กสทช.ที่เดินทางมารับฟังข้อร้องเรียน ให้การต้อนรับพร้อมรับหนังสื่อจากกลุ่มผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน ต่อจากนั้น เวลา 14.00น. ณ บริเวณ ลานชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน เข้าพบนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมรับหนังสือ จากนายวรพจน์ ลัภโต ประธานชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน กรณี ขอให้เร่งรัดการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งรัดนำเข้าพิจารณาสู่สภาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากการที่ กสทช.ได้กำหนดระยะเวลาในการสิ้นสุดการออกอากาศไว้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ และกลุ่มผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนเกรงว่าการดำเนินงานจะไม่ทันตามกรอบเวลา จึงขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการผลักดันการแก้กฎหมายให้แล้วเสร็จทันตามกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญ และเป็นความเดือดร้อนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการวิทยุภาคประชาชนทั่วประเทศกว่า 3,000 สถานีต้องปิดตัวลงทันที
ทางด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)ได้กล่าวฝากไปยังผู้ประกอบการวิทยุชุมชนทั่วประเทศว่า “ กระทรวงดีอี พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในทุกภาคส่วน ซึ่งในกฎหมายฉบับแรกนั้น ผมจะเร่งพิจารณาโดยเร็ว พร้อมทั้งประสานงานร่วมกับตัวแทนของผู้ประกอบการวิทยุภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการเร่งผลักดัน โดยจะเร่งรัดให้ทันในคราวประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2567 สมัยนี้ ขณะที่ฉบับที่ 2 นั้น จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตาม กฎหมายทั้ง 2 ฉบับอยู่ในความดูแลของ กสทช. ซึ่งกระทรวงดีอีจะร่วมหารือในกรณีนี้กับ กสทช. รัฐบาล รวมทั้ง สภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเยียวยาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน”
นอกจากนี้นายประเสริฐยังได้เปิดเผยอีกว่า จากการร่วมพูดคุยกับตัวแทนชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน พบว่าผู้ประกอบการวิทยุภาคประชาชน ได้ขอให้มีการเร่งพิจารณา ร่างแก้ไข พ.ร.บ. ว่าด้วยการประกอบการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่…) พ.ศ. …. โดยมีสาระสำคัญใน 2 ประเด็น ที่ผู้ประกอบวิทยุภาคประชาชน เห็นว่ามีผลกระทบ ดังนี้
1.ร่างมาตรา 7 ให้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการส่งเสริมชุมชนที่มีความพร้อมให้เป็นผู้มีคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง หรือกิจการโทรทัศน์ ประเภทบริการชุมชนประเภทวิทยุ ภาคประชาชน การหารายได้ และการสนับสนุนผู้ประกอบกิจการบริการชุมชนที่มีคุณภาพ และกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง ประเภทบริการชุมชนสามารถมีรายได้จากการบริจาค การอุดหนุนหรือทางอื่น เพื่อให้เพียงพอต่อการบริหารจัดการสถานีวิทยุ โดยไม่เน้นการแสวงหากำไร
2.ร่างมาตรา 8 กำหนดอำนาจปรับทางปกครองกรณีผู้ประกอบกิจการวิทยุภาคประชาชน กิจการบริการชุมชุน หรือวิทยุที่ส่งกระจายเสียงด้วยกำลังส่งไม่เกินหนึ่งกิโลวัตต์ ได้รับคำสั่งให้ระงับการดำเนินการในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแล้วไม่ปฏิบัติตามให้ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท และปรับวันละไม่เกินหนึ่งพันบาทตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง
สำหรับกรณีของการขอให้รัฐบาลผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการยกเลิกการประมูลคลื่นความถี่สำหรับวิทยุกระจายเสียงประเภทธุรกิจ ที่ออกอากาศ 500 วัตต์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3,000 สถานี ให้สามารถออกอากาศต่อไป และจัดให้วิทยุทดลองออกอากาศในขณะนี้ เปลี่ยนไปวิทยุภาคประชาชนเพื่อให้ออกอากาศได้ต่อเนื่องหลังจากสิ้นปี 2567
ในส่วนของประเด็นนี้ ทาง กสทช.ได้กำหนดระยะเวลาในการสิ้นสุดการออกอากาศไว้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และกลุ่มผู้ทดลองออกอากาศ เกรงว่าการดำเนินงานจะไม่ทันตามกรอบเวลา จึงขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการผลักดันการแก้กฎหมายให้แล้วเสร็จทันตามกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญ และเป็นความเดือดร้อนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการวิทยุภาคประชาชนเช่นเดียวกัน โดยผมขอพิจารณารายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้ พร้อมทั้งเร่งหารือร่วมกับรัฐบาล กสทช. และสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะสามารถเร่งผลักดันได้อย่างไรและสุดท้ายยังได้ฝากผู้ประกอบวิทยุภาคประชาชน ให้ประชาสัมพันธ์เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรเข้าหลอกลวงประชาชนสร้างปัญหาต่อพี่น้องประชาชนเป็นอันมาก”นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)กล่าว
ทางด้านนายวรพจน์ ลัภโต ประธานชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนได้กล่าวเสริมว่า “ พวกเราชาววิทยุทุกคนถือว่าเป็นภาระหน้าที่ในการนำสารไปสู่ประชาชนในระดับชุมชน หมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารทางราชการ การแจ้งเตือนภัยต่างๆ งานบุญ กิจกรรมทางสังคมอื่นๆรวมทั้งเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมากคืองพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรเข้าหลอกลวงประชาชน ให้ให้ทางรัฐบาลใช้เราชาววิทยุให้เกิดประโยชน์ทางด้านประชาสัมพันธุ์ภาครัฐสู่พี่น้องประชาชนได้รับทราบอย่างทันท่วงทีป้องกันความเสียเสียที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน”นายวรพจน์ ลัภโต ประธานชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ