วันศุกร์, 11 เมษายน 2568

ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาส 3/2567 EBITDA เติบโตต่อเนื่อง 7 ไตรมาส

25 ต.ค. 2024
175

ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาส 3/2567 ด้วยกำไรภายหลังการปรับปรุง 3.1 พันล้านบาท พร้อม EBITDA เติบโตต่อเนื่อง 7 ไตรมาสนับจากการควบรวมกิจการ

  • EBITDA โตต่อเนื่องสะท้อนความแข็งแกร่งในการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมและการผสานวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน
  • ลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 3 รวมการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย ผ่านเป้าหมาย 10,000 สถานี

25 ตุลาคม 2567 – บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เผยมีกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ (Normalized Net Profit After Tax) ที่ 3.1 พันล้านบาท EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยหลักจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจากการมุ่งเน้นผลการดำเนินงานและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น พร้อมการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม (Synergy)

True-Corp-CEO

นาย มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่นมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและภูมิภาค รวมถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด การลงทุนด้านโครงข่ายของเราเสริมสร้างความเชื่อมั่นทั้งในด้านความพร้อมอย่างเต็มประสิทธิภาพ การดำเนินงานที่ยืดหยุ่นคล่องตัว และการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เรายังให้ความสำคัญในการเร่งช่วยเหลือลูกค้าและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สำหรับ EBITDA เติบโตเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของเราในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย โดยมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการผสานปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อยกระดับทั้งการดำเนินงานภายในและการบริการลูกค้า เรายังคงมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด”

True-Corp-3-Cs

นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในไตรมาส 3 ปี 2567 เรายังคงมุ่งเน้นการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท โดยมุ่งเน้นที่การดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 10,000 สถานีจากทั้งหมด 17,000 สถานี นอกจากนี้ เรากำลังนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในเชิงลึก เพื่อสร้างสรรค์บริการรูปแบบใหม่ ยกระดับการดำเนินธุรกิจ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังภูมิใจที่เป็นรายแรกในประเทศไทยที่นำแผนการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Responsible AI (RAI) Maturity Roadmap ของ GSMA มาใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ AI ของเราเป็นไปอย่างมีจริยธรรมและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล”

ในไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพของการได้มาในส่วนผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงสุทธิ 1.2 ล้านเลขหมาย หรือ 2.3% จากไตรมาสก่อน โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 49.3 ล้านเลขหมาย ผู้ใช้บริการระบบรายเดือนลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนมาอยู่ที่จำนวน 15.2 ล้านราย ในขณะที่ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินมีจำนวน 34.1 ล้านราย ผู้ใช้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 3.7 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 ผู้ใช้บริการ 5G มีจำนวน 12.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่นประสบความสำเร็จด้วยการเติบโตของ EBITDA เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้ไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรภายหลังการปรับปรุงดีขึ้นอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC เติบโต 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และออนไลน์ รายได้รวมอยู่ที่ 5.08 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการในทุกกลุ่มธุรกิจ”

จากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการผสานการบริหารผลงานร่วมกับวัฒนธรรมองค์กร ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ (ARPU) เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจเมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 3.7% (YoY) จาก ARPU เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5.6% (YoY) รายได้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 7.5% (YoY) โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของ ARPU อย่างต่อเนื่องที่ 9.8% (YoY)  ส่วนรายได้จากบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (PayTV) เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมี ARPU เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีที่แล้ว

สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ D&A) ลดลง 9.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม และมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนเครือข่ายลดลง 13.3% (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมทั้งจากการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและการจัดซื้อจัดจ้าง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลง 17.7% (YoY) โดยการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมในโครงการปรับปรุงด้านธุรกิจและการพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย ซึ่งจากการเร่งดำเนินการเพื่อรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมในด้านสำคัญต่าง ๆ และการมุ่งเน้นเชิงลึกในการเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงโครงสร้าง ทรู คอร์ปอเรชั่น สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง

ทรู คอร์ปอเรชั่นบันทึกการเพิ่มขึ้นของ EBITDA จำนวน 5,530 ล้านบาท นับตั้งแต่การควบรวมกิจการ ซึ่งนับเป็นการเติบโตของ EBITDA เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 EBITDA ปรับตัวดีขึ้น 646 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน (QoQ) เพิ่มขึ้น 2.7% (QoQ) อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่การควบรวมกิจการที่ 60.2% ในไตรมาส 3 ปี 2567

สำหรับไตรมาส 3 ปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่นบันทึกผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (one-time costs) จากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย จำนวน 3,917 ล้านบาท ส่งผลให้มีขาดทุนสุทธิหลังหักภาษี 810 ล้านบาท ซึ่งเมื่อปรับปรุงรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว กำไรสุทธิหลังหักภาษีอยู่ที่ 3,107 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 709 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 9,919 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นที่การดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย

แนวโน้มสำหรับทรู คอร์ปอเรชั่นในปี 2567 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) เติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับปีก่อน EBITDA จะเติบโต 12-14% (YoY) ในขณะที่แนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) รวมถึงการลงทุนเพื่อการควบรวมกิจการยังคงอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2567 จะยังคงมีกำไรหากไม่รวมการตัดจำหน่ายสินทรัพย์เครือข่ายที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย

ตัวเลขทางการเงินที่สำคัญในไตรมาส 3 ปี 2567

  • รายได้จากบริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือ IC จำนวน 41,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% (YoY) และคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
  • EBITDA อยู่ที่ 24,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% (YoY) และ 2.7% (QoQ)
  • อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 60.2%
  • กำไรสุทธิภายหลังการปรับปรุง (Normalized) จำนวน 3,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 709 ล้านบาท (QoQ)

เกี่ยวกับบริษัท

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของประเทศไทย มุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพเพื่อทุกคนและธุรกิจด้วยโซลูชันการเชื่อมต่อที่ช่วยพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน บริการด้านเสียงและดาต้าชั้นนำระดับโลกของทรู เปิดประตูสู่ระบบนิเวศด้านไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร ตั้งแต่ความบันเทิงระดับโลก สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับสมาชิก ไปจนถึงการเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อ ด้วยนวัตกรรมที่ผสานพลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทรูมีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ยกระดับสุขภาพ และเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 7003315842a3e5554.jpeg tz01.jpeg 2_07b2fa84021c11013.jpeg sm02.jpeg green-white-background06.jpeg cropped-kk0012-scaled-3.jpeg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ radio20766.gif


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทรู คอร์ปอเรชั่น ทุ่มเสริมทัพ 5G ชุ่มฉ่ำรับ “Maha Songkran World Water Festival 2025” ปรากฏการณ์สาดน้ำยิ่งใหญ่ท้องสนามหลวง และทุกพื้นที่ทั่วไทย
ทรู คอร์ปอเรชั่น ผนึกร่วม ปภ. กสทช. ดีอี ซ้อมใหญ่ระบบเตือนภัย Cell Broadcast นำร่องพร้อมใช้จริงเพื่อคนไทย ปลื้มผลทดสอบตามคาดหมาย
ทรู คอร์ปอเรชั่น เร่ง กสทช. เดินหน้าประมูลคลื่นความถี่ตามแผนเดิม หนุนไทยขึ้นแท่นดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาค
ทรู เดินหน้ารับมือภัยพิบัติ! รายแรกติดตั้งระบบเตือนภัย Cell Broadcast ครบทุกสถานีฐานทั่วประเทศ
 ทรู คอร์ปอเรชั่นระดมโครงข่ายและทีมภาคสนาม สนับสนุนภารกิจช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว-อาคารถล่ม พร้อมเสริม COW และวางระบบสื่อสารรับมือ Aftershock
“ทรู คอร์ปอเรชั่น” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูพื้นฐานแข็งแกร่ง ดึงดูดนักลงทุนด้วยผลตอบแทนมั่นคง