ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)
ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ครั้งที่52/2567 (ครั้งที่ 937)เมื่อวันที่ 27พฤศจิกายน 2567 กกพ.มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟที และได้พิจารณากรณีศึกษา
การปรับค่าเอฟทีขายปลีกสำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนมกราคม – เมษายน 2568 และมีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บเท่ากับ 36.72สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงจากงวดปัจจุบัน (กันยายน – ธันวาคม 2567)จาก 4.18 บาทต่อหน่วยเหลืออยู่ที่4.15บาทต่อหน่วย
“ในการพิจารณาทบทวนเพื่อปรับลดค่าไฟฟ้าในงวดเดือนมกราคม – เมษายน 2568จากการรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดจากกระบวนการรับฟังความคิดเห็น รวมทั้งกกพ.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ได้พิจารณาร่วมกันถึงการทบทวนแนวโน้มต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ปัจจัยเสี่ยงต่างๆในระยะถัดไปพบว่ามีแนวโน้ม
ผ่อนคลายและกดดันต่อค่าไฟลดลงจึงได้ปรับลดค่าไฟลงได้อีกเล็กน้อยเพื่อเป็นการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย
ด้านค่าไฟฟ้าของพี่น้องประชาชน และค่าไฟระดับ 4.15 บาทต่อหน่วยยังคงเป็นอัตราที่ยังสามารถรักษาความมั่นคงเสถียรภาพ และความยั่งยืนให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศระยะยาวได้” ดร.พูลพัฒน์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ กฟผ. ยังได้ทำเรื่องมายัง กกพ.เพื่อขอให้พิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรอัตโนมัติ (Ft) ประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2568เพื่อประกอบการพิจารณาในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชนแล้วด้วยโดยรายละเอียดเอกสารเผยแพร่ค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือนมกราคม – เมษายน 2568สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน กกพ.www.erc.or.th
ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ