วันเสาร์, 30 พฤศจิกายน 2567

เมืองเวินโจวของจีนพลิกโฉมสู่ศูนย์กลางเส้นทางสายไหมทางทะเลยุคใหม่ เดินหน้าสร้างนวัตกรรมและจับมือพันธมิตรทั่วโลก

คณะกรรมการบริหารการประชุมแลกเปลี่ยนระดับนายกเทศมนตรีว่าด้วยอิทธิพลของเมืองบนเส้นทางสายไหมทางทะเล ประจำปี 2567

เวินโจว, จีน, 29 พ.ย. 2567 /ซินหัว-เอเชียเน็ท/ดาต้าเซ็ต

ในขณะที่ปี 2567 กำลังจะสิ้นสุดลง เส้นทางสายไหมทางทะเลกำลังจะได้เห็นบทใหม่อันเป็นหมุดหมายสำคัญของการพัฒนาอันรุ่งเรืองตลอดปีที่ผ่านมา โดยการประชุมแลกเปลี่ยนระดับนายกเทศมนตรีว่าด้วยอิทธิพลของเมืองบนเส้นทางสายไหมทางทะเล ประจำปี 2567 มีกำหนดจัดขึ้นที่เมืองท่าอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างเวินโจว ในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม

การประชุมครั้งนี้นับเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมจิตวิญญาณเส้นทางสายไหม อันประกอบด้วยสันติภาพและความร่วมมือ การเปิดกว้างและการอยู่ร่วมกัน การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผลประโยชน์ร่วมกัน และการได้ประโยชน์ทุกฝ่าย โดยจะเปิดเผยรายชื่อ 10 เมืองทรงอิทธิพลบนเส้นทางสายไหมทางทะเลประจำปี 2567 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและเสน่ห์ของเมืองต่าง ๆ ของจีนที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมทางทะเลในรอบปีที่ผ่านมา

เมืองเวินโจวตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์กลางแนวชายฝั่งตะวันออกของจีน ด้วยทำเลทองที่แม่น้ำบรรจบทะเล ทำให้มีท่าเรือที่เหมาะแก่การค้าขาย นับตั้งแต่ก่อตั้งเมืองในสมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออกเมื่อกว่า 2,200 ปีก่อน เวินโจวก็เติบโตเป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งที่คึกคักมาโดยตลอด

แหล่งท่าเรือโบราณซั่วเหมิน (Shuomen Ancient Port) ที่ค้นพบจากการขุดค้นทางโบราณคดีในปี 2564 เป็นประจักษ์พยานอันโดดเด่นถึงบทบาทสำคัญของเวินโจวในเส้นทางสายไหมทางทะเลโบราณ ด้วยระบบที่ผสมผสานทั้งเมือง ท่าเรือ และเส้นทางน้ำ แหล่งโบราณคดีแห่งนี้นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางโบราณคดีที่หาได้ยากยิ่งทั้งในจีนและทั่วโลก และเป็นหลักฐานชัดเจนที่แสดงถึงความรุ่งเรืองและความต่อเนื่องของเส้นทางสายไหมทางทะเลโบราณ

การพัฒนาเส้นทางสายไหมทางทะเลไม่เพียงช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเวินโจวกับโลกภายนอก แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีอีกด้วย

ตลอดเส้นทางที่พระสงฆ์และพ่อค้าได้บุกเบิกไว้ สมบัติทางวัฒนธรรมมากมาย ทั้งงานหัตถศิลป์อันประณีตอย่างเครื่องเขินและเครื่องลายคราม รวมถึงงานพิมพ์โบราณ เช่น ภาพจิตรกรรมพุทธศิลป์และวรรณกรรมกวีนิพนธ์ ได้แพร่หลายข้ามทะเลสู่นานาประเทศ การแลกเปลี่ยนเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงวัฒนธรรมและถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยี

ปัจจุบัน เวินโจวยังคงทำหน้าที่สำคัญในฐานะสะพานเชื่อมการไหลเวียนของสินค้า วัฒนธรรม และเทคโนโลยีระหว่างตะวันออกกับตะวันตก พร้อมกับมุ่งมั่นแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ ในการพัฒนาเมือง

การประชุมครั้งนี้จะมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและการนำเสนอผลการวิจัยเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีท่าเรือซั่วเหมิน นิทรรศการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมแห่งเส้นทางสายไหมทางทะเล การสัมมนาและนิทรรศการด้านนวัตกรรมงานศิลปหัตถกรรม การนำเสนอแบรนด์การท่องเที่ยวเมืองระดับโลก กิจกรรม “ราตรีเวินโจว” และงานแสดงสินค้าที่สะท้อนเอกลักษณ์ของเวินโจวและวิถีชีวิตสมัยราชวงศ์ซ่ง

กิจกรรมเหล่านี้มุ่งสร้างเวทีระดับนานาชาติแห่งใหม่เพื่อส่งเสริมการสื่อสารและความร่วมมือ โดยอาศัยเมืองต่าง ๆ บนเส้นทางสายไหมทางทะเลเป็นตัวเชื่อม เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในด้านวัฒนธรรม ศิลปะ การศึกษาวิทยาศาสตร์ สาธารณสุข กีฬา และการท่องเที่ยว การประชุมครั้งนี้หวังส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันและผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างเมืองบนเส้นทางสายไหมทางทะเลให้ลึกซึ้งและกว้างขวางยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจและการค้า

ในศตวรรษที่ 21 ขณะที่เส้นทางสายไหมทางทะเลกำลังฟื้นคืนชีพ เมืองท่าการค้าอายุพันปีอย่างเวินโจวยังคงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่อง ในยุคใหม่นี้ เมืองเวินโจวมุ่งมั่นที่จะสำรวจหาแนวทางพัฒนาที่เปิดกว้างมากขึ้น การแลกเปลี่ยนที่กว้างขวางขึ้น และความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ในด้านการพัฒนาเมืองนั้น เวินโจวได้ดึงดูดสถาบันการศึกษาชั้นนำให้เข้ามามีบทบาทในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางจากสิงคโปร์ และมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง

ส่วนในด้านการคมนาคม เมืองเวินโจวทุ่มเทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางคมนาคมระดับชาติแบบครบวงจร และศูนย์กลางการขนส่งทางเรือระดับภูมิภาค

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เวินโจวได้สร้างสายสัมพันธ์ฉันมิตรกับ 30 เมือง โดยหลายเมืองตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมทางทะเล ความโดดเด่นในการสร้างเครือข่ายเมืองพี่เมืองน้องในระดับนานาชาติทำให้เวินโจวได้รับ “รางวัลเมืองมิตรภาพระหว่างประเทศดีเด่น” ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดด้านความสัมพันธ์ระหว่างเมืองพี่เมืองน้องของจีน

ในการประชุมปีนี้ เมืองเวินโจวจะเชิญผู้บริหารจากเมืองสำคัญบนเส้นทางสายไหมทางทะเล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนาเมืองผ่านการประชุมโต๊ะกลม เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในความร่วมมือระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ การประชุมนี้จะประกาศแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างเมืองบนเส้นทางสายไหมทางทะเล ซึ่งเป็นผลจากการหารือเชิงลึกของผู้แทนที่เข้าร่วมประชุม แถลงการณ์นี้มุ่งส่งเสริมการเผยแพร่จิตวิญญาณแห่งเส้นทางสายไหมให้กว้างไกลยิ่งขึ้น และผลักดันบทบาทสำคัญของเส้นทางสายไหมในศตวรรษใหม่

การมีเส้นทางสายไหมทางทะเลและเป้าหมายการพัฒนาร่วมกัน นำมาซึ่งโอกาสในการร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย โดยเมืองเวินโจวจะใช้การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสในการส่งเสริมการสื่อสารและความร่วมมือกับเมืองต่าง ๆ ตลอดเส้นทางสายไหมทางทะเล เพื่อผลักดันให้เมืองบนเส้นทางสายไหมทางทะเลมีอนาคตสดใสยิ่งขึ้นในสหัสวรรษใหม่

ที่มา: คณะกรรมการบริหารการประชุมแลกเปลี่ยนระดับนายกเทศมนตรีว่าด้วยอิทธิพลของเมืองบนเส้นทางสายไหมทางทะเล ประจำปี 2567

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 7003315842a3e5554.jpeg tz01.jpeg 2_07b2fa84021c11013.jpeg sm02.jpeg green-white-background06.jpeg cropped-kk0012-scaled-3.jpeg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ radio20766.gif


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เปิดเหตุผล โก โฮลเซลล์ บุกเจริญราษฎร์ เจาะตลาดค้าส่งวัตถุดิบอาหาร บนทำเลทองใจกลางเมือง พบกัน 4 ธ.ค.นี้
เฮเฟเล่ ประเทศไทย ฉลอง 30 ปี ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 เดินเกมรุกตลาดลักชัวรี ตั้งเป้า 10,000 ล้านบาท ปี พ.ศ. 2573 ดัน “ประเทศไทย” เป็นศูนย์กลางบริหารและกำหนดทิศทางการพัฒนาธุรกิจ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ออริจิ้น” เริ่มก่อสร้างโครงการที่ 2 “ออริจิ้น เพลสขอนแก่น กัลปพฤกษ์”คอนโดหรูทำเลใจกลางเมืองขอนแก่น ส่วนกลางครบครัน
เริ่มขึ้นแล้ว “ใส่ไทย เฟสติวัล” จังหวัดสุรินทร์ ดัน SOFT POWER ด้านแฟชั่น งานเฟสติวัลครั้งยิ่งใหญ่ ส่งท้ายปี  
มิดัส พีอาร์ ตอกย้ำความเป็นเลิศของวงการประชาสัมพันธ์ไทย ผงาดคว้าสามรางวัลใหญ่ ณ ค่ำคืนอันทรงเกียรติในงาน PRCA Thailand Awards 2024
เตรียมพบสาขาลำดับที่ 10 ของ โก โฮลเซลล์ บนถนนเจริญราษฎร์  4 ธ.ค. นี้