นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่า ราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ทันตแพทย์หญิงศิริรัตน์ จุรีมาศ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้งพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ คลังจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เงินเยียวยาของรัฐ ร่วมกันนำกระเช้าของขวัญและสิ่งของ ไปเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจ ผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียง 2 ราย ที่มีการส่งเงินคืนรัฐ จากการรับเงินซ้ำซ้อน และผิดพลาด ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ที่ แท้จริงในปัจจุบัน และเตรียมให้ความช่วยเหลือเยียวยาในด้านอื่นให้กับทั้ง2ราย ที่มีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

ซึ่งได้แก่ นายจันธนรัฐ พัฒนสาร อายุ 62 ปี อดีตนายทหารผ่านศึก หรือทหารนอกราชการ ที่บ้านเลขที่ 13 ถนนรณชัยชาญยุทธ ตำบลในเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ต้องผ่าตัด เจาะลำคอเพื่อให้อาหารทางสายยางที่อยู่ในความดูแลของภรรยา ที่ได้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการรับเงินเยียวยาซ้ำซ้อน ได้รับเงินมา 6,000 บาท และหลังจากทราบว่า ผิดระเบียบ ก็ได้มีการส่งเงินคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนรายที่ 2 ได้แก่นายเจริญสุข ขามคุลา อดีตข้าราชการครูเกษียณอายุ อายุ 68 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 23/5 ถนนเทวาภิบาล ตำบลในเมืองอำเภอเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นผู้ป่วย ซ้ำซ้อนพิการทางร่างกาย และสมอง จากการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ต้องอยู่ในความดูแลของญาติ ที่ไม่มีบ้านและที่ดินของคนเอง และเช่าบ้านอยู่ ซึ่งเป็นอีกรายหนึ่ง เข้าร่วมโครงการ ซ้ำซ้อน ได้รับเงิน มาแล้ว 8,000 บาท ซึ่งก็ได้ ทราบว่าผิดระเบียบ และก็มีการส่งเงินคืนแล้วเช่นกัน

นางสาวมนัสนันท์ สุพัฒน์พิทักษ์สกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ในขณะนี้จังหวัดร้อยเอ็ดมีข้อมูลพบว่า ทั้ง 20 ของอำเภอของจังหวัด101 มีเข้าร่วมโครงการซ้ำซ้อนทั้งสิ้น 279 ราย และจำนวนทั้งหมดนี้ที่มากที่สุดก็คือ ในเขตอำเภอเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด มีจำนวนทั้งสิ้น 21 ราย ได้ 21 รายนี้ส่วนใหญ่ เป็นไปในลักษณะของผู้ที่ ไม่ควรได้ เพราะเป็นข้าราชการบำนาญ และ 2 รายที่มาเยี่ยมนี้เป็นผู้ที่มีฐานะ ยากจนจริงๆ แต่ก็มีความพิการซ้ำซ้อนมาด้วย ซึ่งก็ได้มีการคืนเงินแล้ว เส้นทางจังหวัดทราบข่าวผสจ.และเหล่ากาชาดจึงได้นำทีมงานลงมาตรวจเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจและหาหนทางเยียวยาในด้านอื่นเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับผู้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจริงให้มีทางออกด้านการดำรงชีพ ส่วนที่นอกเหนือจากในเขตเทศบาลเมืองแล้วในทุกอำเภอช่วงนี้เป็นช่วงของการเช็คข้อมูลบุคคลที่เข้าร่วมโครงการซ้ำซ้อนทั้งจังหวัดให้ทางอำเภอดำเนินการพร้อมๆกัน
ในขณะที่ทางด้าน ผวจ.101 กล่าวว่า ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลชัดเจนก็จะดำเนินการต่อไปให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องต่อไป แต่อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ก็จะยังไม่มีการเรียกเงินคืนเนื่องจากรัฐบาลสั่งให้มีการชะลอไว้ก่อน เพื่อที่จะทำการคัดกรองในส่วนของผู้เข้าโครงการซ้ำซ้อน ประกาศ ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้มีการแก้ปัญหาร่วมกันในการหาทางออกที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่มีปัญหา เพื่อเกิดความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน
/////////////////////////
โชติกา ทวนชัยภูมิ/ภาพ/ข่าว
0956628047